แลกคะแนนแทนส่วนลดหรือแลกคะแนนแทนเงินสด เพื่อดูหนัง กิน ช้อป เที่ยว ** ณ ร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ
หลักเกณฑ์การสมัคร
คุณสมบัติ:
- อายุ 20-25 ปี (เฉพาะการสมัครบัตรหลักเท่านั้น)
- สำหรับนิสิต นักศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ทุกสัญชาติ ทุกสถาบันในประเทศไทย
- มีบัตรนักศึกษาที่ยังไม่หมดอายุ
- มีโทรศัพท์พื้นฐาน หรือมือถือที่ติดต่อได้ อย่างน้อย 1 เบอร์
- มีเงินฝากออมทรัพย์กับธนาคารกรุงศรีอยุธยาขั้นต่ำ 10,000 บาท
เอกสารประกอบการพิจารณา:
- สำเนาบัตรประชาชน/พาสปอร์ต (สำหรับนักศึกษาต่างชาติ)
- สำเนาบัตรนักศึกษาที่ยังไม่หมดอายุ
- สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- หนังสือยินยอมให้หักบัญชีเงินฝากเพื่อชำระหนี้บัตรเครดิต
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิตนักศึกษา
https://www.krungsri.com/bank/th/university.html
https://www.krungsri.com/bank/th/krungsri-guru/guru/money-tips/june-2015/privileges-student-card.html
https://www.krungsri.com/bank/th/krungsri-guru/academy/live-and-learn/march-2017/university-student-first-credit-card.html
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประสบการณ์ที่ผมอยากมาแนะนำ
เนื่องจากผมเคยใช้บัตรเครดิตของค่ายหนึ่ง ก็มีประสบการณ์อยากมาแนะนำให้น้องๆ ที่คิดอยากจะทำบัตรเครดิต นอกจากนี้บัตรเครดิตเริ่มเปิดตลาดเข้าสู่วัยเรียนมากขึ้น เพื่อให้น้องๆ ได้มองเห็นข้อดีข้อเสียจากการใช้บัตรเครดิต
ข้อเสีย
1. มีบริษัทประกันภัยต่าง ๆ โทรเข้ามานำเสนอ ชักชวนให้ทำประกันชีวิต ทั้งๆ ที่เราไม่ต้องการและต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย
2. ทำให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายได้ยาก หักห้ามใจไม่ค่อยได้3. อาจเกิดปัญหาระหว่างนักศึกษากับผู้ปกครอง (ยกเว้นหาเงินใช้เองได้)
4. มีค่าธรรมเนียมค่อนข้างแพง มีค่าบัตรรายปี มีค่าทวงถามหากเลยกำหนด มีค่าปรับเมื่อจ่ายเงินล่าช้า
5. ฯลฯ
ข้อดี
1. ใช้ผ่อนสินค้าได้นานขึ้น ทำให้เราจ่ายเงินน้อยๆ แต่ได้ของมาใช้เลย
2. มีคะแนนสะสม ทำให้เราได้ส่วนลดแลกของต่างๆ เช่น แลกซื้อกาแฟ ใช้แต้มซื้อตั๋วหนัง ฯลฯ
3. ทำให้เราสร้างวินัยการใช้เงินด้วยเอง ซึ่งนำไปสู่การบริหารเงินด้วยตนเอง
4. มีความสะดวกในการจ่ายค่าจองตั๋วเครื่องบิน รถโดยสาร ฯลฯ
5. มีใบเสร็จ รายการบันทึกการทำราย ทำให้เรามีข้อมูลเพื่อจัดการการใช้เงินของเราในอนาคตได้
6. ฯลฯ
วิธีปฏิเสธบริษัทประกันภัยทั้งหลายแหล่ มีวิธีดังนี้
- ปฏิเสธไปเลย ว่า เราไม่ต้องการจริงๆ (แต่เค้าก็จะให้เราฟังบริการสักนิด)
- ปฏิเสธโดยบอกว่า เราไม่ว่าง เราประชุม ออกกำลังกาย ฯลฯ
- วางสายไปเลย บางครั้งบริษัทเหล่านั้นโทรมา แล้วก็พูกนำเสนอนั่น นี่ โน่น บลาๆๆ... อยู่ฝ่ายเดียวจนหูของเราแทบจะติดไฟ ถ้าเจอแบบนี้...ก็วางสายไปเลยครับ
ข้อแนะนำ
1. ให้คิดถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง ว่า จะมีผลกระทบใดๆ หรือไม่ ถ้าหากเป็นคนมีเงินอยู่แล้ว...การใช้บัตรเครดิตคงไม่กระทบอะไรมาก
2. คำนึงถึงความเหมาะสมและความจำเป็น ว่าเราจำเป็นต้องใช้หรือไม่ การดำเนินชีวิตติดขัดอะไรไหมถ้าไม่มีบัตรเครดิต
3. หากจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต ก็ต้องมีวินัยอย่างแรง ในการควบคุมความอยากซื้อของตนเอง
4. จ่ายเงินให้ตรงกำหนด (ก่อนกำหนดก็ได้) เพื่อรักษาเครดิตของเรา เพราะว่ามันจะเกี่ยวข้องกับการติด Blacklist ในอนาคต ประเดี๋ยวจะซื้อรถ ผ่อนนั่นี่ ไม่ได้
5. ฯลฯ
ตรวจสอบค่าธรรมเนียมต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น