วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ก.พ. ปรับปรุง ป.ตรี 1.5 หมื่น ป.โท 1.7 หมื่น ป.เอก 2.0 หมื่น (บาท)


ก.พ.เดินหน้านโยบายปริญญาตรี 1.5 หมื่น เตรียมชงครม.ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท ปริญญาโท 1.7 หมื่น ปริญญาเอก 2 หมื่น มีผล 1 ม.ค.2555 อัดงบ 7,000 ล้าน จ่ายเบี้ยยังชีพ โปะเงินข้าราชการที่อายุงาน 1-10 ปี แต่เงินเดือนยังไม่ถึง 1.5 หมื่น 

นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้สำนักงาน ก.พ.จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา กฎก.พ.ว่าด้วยเรื่องการรับเงินเดือนข้าราชการ พ.ศ. .... เพื่อปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ข้าราชการแรกบรรจุที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีได้รับเงินเดือน 15,000 บาท เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2555 โดยจะเสนอให้ข้าราชการแรกเข้าในระดับปฏิบัติการที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจะอยู่ที่ 11,000 บาทในปีงบประมาณ 2555 และเพิ่มเป็น 15,000 บาทในปี 2556 

ส่วนอัตราเงินเดือนแรกเข้าข้าราชการระดับปริญญาโทจะอยู่ที่ 17,000 บาทต่อเดือน และข้าราชการระดับปริญญาเอกที่ 20,000 บาทต่อเดือน 


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้าราชการที่บรรจุใหม่ในปีงบประมาณ 2555 และข้าราชการที่มีอายุราชการตั้งแต่ 1-10 ปีแต่ยังได้รับเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ที่จะมีการปรับ จะได้รับค่าครองชีพชั่วคราวเพิ่มเติม เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้วจะเท่ากับเงินเดือนที่ข้าราชการบรรจุใหม่ที่จบปริญญาตรี ที่ 15,000 บาท ใช้งบประมาณ 7 พันล้านบาท ซึ่งจะต้องขอแปรญัตติเพิ่มเติมจากคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 หลังจากนั้นในปี 2556 เงินเดือนของข้าราชการจะปรับขึ้นตามอัตราที่กำหนดโดยที่ไม่ต้องมีการจ่ายค่าครองชีพเพิ่มเติมในแต่ละเดือน 

การปรับอัตราเงินเดือนในส่วนนี้ไม่ได้เป็นการปรับเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ และยังไม่มีการปรับเงินเดือน ผู้บริหารและข้าราชการการเมือง โดยคณะกรรมการ ก.พ.เห็นว่าประเทศอยู่ในช่วงที่ต้องการใช้งบประมาณจำนวนมากในการฟื้นฟูประเทศ เรื่องการปรับเงินเดือนข้าราชการการเมืองเป็นเรื่องที่สามารถชะลอเอาไว้ก่อนได้ 

สำหรับข้าราชการที่รับราชการเกิน 10 ปี  จะไม่ได้รับการปรับเพิ่มเงินเดือนในครั้งนี้ แต่จะได้รับการปรับอัตราเงินเดือนแน่นอน ในช่วงที่มีการปรับโครงสร้างบัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ซึ่งก่อนจะปรับโครงสร้างเงินเดือนต้องประเมินสถานะการเงินของประเทศและการใช้งบฟื้นฟูฯ ต่างๆ ให้แน่ใจก่อนดำเนินการ 

การปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบจะต้องประเมินถึงสถานการณ์ทางการเงินของประเทศด้วย ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในขนาดนี้ ในส่วนที่จะเสนอให้ ครม.เป็นการดำเนินการตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ นายนนทิกร กล่าว 

เลขาธิการ ก.พ. อธิบายว่า การปรับขึ้นเงินเดือนตามรูปแบบที่ ก.พ.จะเสนอให้ ครม.พิจารณาไม่จำเป็นต้องแก้ไขกฎหมาย เพราะไม่ได้เป็นการแก้ไขบัญชีเงินเดือนที่อยู่ท้ายพระราชบัญญัติบัญชีเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง เป็นเพียงการแก้ไขกฎ ก.พ.เรื่องการรับเงินเดือนข้าราชการเท่านั้น ซึ่งการดำเนินการตามแนวทางนี้จะทำให้เงินเดือนข้าราชการตันเร็วขึ้น โดยเฉพาะข้าราชการที่จบปริญญาเอก ก.พ.จึงต้องแก้ไขกฎ ก.พ.ให้ข้าราชการที่เงินเดือนตันได้รับเงินเดือนในชั้นชำนาญการได้

ที่มา

ติดตั้งข่าวสาร การเปิดสอบ แล้วนะ


บล็อกแห่งนี้ได้ติดตั้งข่าวสาร  การเปิดสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ไว้ด้านล่างแล้วนะครับ  ผู้อ่านลองเข้าชม หางานราชการต่าง ๆ ตามต้องการได้แล้ววันนี้เป็นต้นไป ...  

ด้วยความตั้งใจหาข่าวสารมาเล่าให้กันฟัง  ผมก็เลยดั้นด้นค้นหาข้อมูลอย่างหนัก  เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดออกมานำเสนอแก่สาธารณชนคนออนไลน์ทั่วไปครับ  เผื่อนำไปบอกต่อญาติพี่น้องต่อไป  555++

หางานด้านล่างบล็อกนี้ครับ

Poll ของ Blogger บ่งบอกคุณภาพได้มากมาย


ผมติดตั้ง Poll ไว้นานพอสมควร  แต่กว่าจะมีคนตัดสินใจทำ Poll  ของเรานั้น  มันทำให้เราปลื้มใจมากมายครับ  ถึงแม้จะน้อยนิด  แต่ก็ถือได้ว่าบล็อกของเรานั้น  มีคุณภาพจริง ๆ !!! (ในระดับหนึ่ง)  

Poll ติดตั้งง่าย ๆ และตั้งเวลาปิดได้อีกด้วยนะครับ  นอกจากนี้ยังแสดงสถิติได้ดีเยี่ยมอีกด้วย  หลาย ๆ ท่านติดตั้งกันหรือย้งน้าาา ???  ลองดูนะครับ  เป็นการเพิ่มสีสัน  และความเมามันในการทำบล็อกอีกด้วย ^ ^

Color Code ช่วย Blogger ของเราให้ดูแจ่ม ได้นะ !!!

บ่อยครั้งที่ผมมักจะใช้บริการจากเว็บไซต์
 http://sukumal.brinkster.net/meaploy/angel/color.html
เพื่อหารหัสสี  ในการแต่งเติมสีสันให้กับบล็อกของผม เช่น  สีพื้นหลัง  สีตัวอักษร  สีเส้นขอบ เป็นต้น  ซึ่งเว็บไซต์นี้ก็ทำให้ผมได้ทำชิ้นงานของบล็อกมาได้เป็นอย่างดี  แต่ที่สำคัญก็คือ  เราต้องไอเดียของตนเองด้วยนะครับ  จะได้ทำได้ดังจินตนาการไว้  


สำหรับครั้งนี้ก็มีทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากท่านผู้อ่านตามเคย  สำหรับมือใหม่ก็ค่อย ๆ เริ่มทำไปเรื่อย ๆ นะครับ  อย่าเพิ่งท้อนะครับ  เอาอันเก่ามาพัฒนาใหม่  ไปเรีื่อย  ๆ  เดี๋ยวมันก็ดูดีเองครับ  อ้อ...อย่าลืมเขียนเนื้อหาโดน ๆ ด้วยนะครับ ^ ^

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Blogger ของคุณ มี FeedBurner แล้วหรือยัง ???


FeedBurner คืออะไร  ผมก็ไม่รู้  ผมรู้แต่ว่า...มันสามารถปรับแต่งการส่งข้อมูล  ข่าวสาร  จากบล็อกของเราไปทางอีเมล์ผู้ติดตามได้  และมี Social Network ด้วยละ  นั่นหมายถึงว่า  เมื่อผู้ติดตามได้เปิดดูทางอีเมล์และได้อ่านบทความบางตอน  ก็อยากอ่านต่อ...  เขาจะคลิกเข้ามาอ่านต่อทันที...  หรืออาจจะคลิกเพื่อทำการ "แชร์"  ก็เป็นได้

ดั้งนั้นแล้ว  การสร้าง FeedBurner ให้กับ Blogger เราไม่ต้องทำอะไรมากมาย  เพราะระบบจะสร้างให้เราอัตโนมัติ  เพียงแค่เรามีบัญชี Google แล้วคลิกเข้าไปที่
ก็จะพบชื่อบล็อกของท่านจากนั้นก็คลิกเข้าไปดูส่วนต่าง ๆ ได้เลยนะครับ  ส่วนเรื่องการปรับค่าต่าง ๆ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังกันทีหลังนะครับ  


เข้าชม Feed Burner ของผมได้ที่


วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Blogger ของคุณ เขียนดึงดูดใจ น่าอ่านหรือยัง ???


บ่อยครั้งที่การเขียนบทความหาที่จบไม่ได้...ทางออกก็คือเขียนเป็นบทละครไปเลยครับ ภาค ๑ ๒ ๓ ... จนหาที่จบให้ได้  ประมาณนั้น  บางครั้งก็เขียนเล่าเรื่องเดียวจบ !!!

แต่ก็มีหลาย ๆ ช่วงที่เรานึกอะไรไม่ออก  เกิดอาการสมองตัน !!!  หรือใช้ภาษาที่อ่านแล้วเข้าใจยาก  ประมาณว่า  ใช้ภาษาวัยรุ่นวิบัติ !!! เกินไป  ก็ทำให้ผ้อ่านเกิดอาการเซ็ง... ^_^"  

ดังนั้นแล้ว  การเขียนบทความต้อง  หาเรื่องง่าย ๆ เขียนจบได้ในเรื่องเดียวยิ่งดี  และควรใช้ภาษาที่สวยงามหรือใช้ระดับภาษาให้สอดคล้องกับบทความนั้น ๆ 

เอาละครับ  ผมไปนอนก่อนนะครับ  จะได้นอนฝันดี  มีเรื่องเล่าดี ๆ ต่อไป.. 555+++

สวัสดีครับ



Blogger ของคุณมีไว้เพื่องานเขียน หรือ SEO


มีหลาย ๆ ท่านสร้างบล็อกเพื่อใช้ในทาง SEO  ซึ่งเป็นบล็อกที่ไม่ค่อยหน้าเข้านัก  เพราะว่าเนื้อหามีน้อย  ไม่ค่อยมีแนวคิดใหม่ ๆ ที่เราผู้อ่านพอจะนำไปใช้ได้  

สำหรับผมแล้ว  ผมสร้างบล็อกเพื่อไว้เขียนเล่าประสบการณ์ต่าง ๆ เผื่อเป็นประโยชน์ต่อชีวิตบางท่าน  อีกอย่าง  ผมชอบการเขียนด้วยละครับ  ชอบการใช้ภาษาในลักษณะต่าง ๆ ส่วนด้าน SEO  ผมไม่สนใจครับ  เพราะว่า  Google เขาทำให้เราแล้วครับ  ^_^  ผมทำไม่เก่งด้วยละครับที่สำคัญ 555++

ก็ผมเขียนบทความให้คนอ่านนี่นา  ไม่ได้เขียนให้เครื่องมืออย่าง SEO อ่านซักหน่อย...  


เรียนอย่างไร ??? ให้เหมาะสมกับชีวิตเรา !!!

เท่าที่ผมอยู่วงการนี้มานาน...นานเพราะผมเรียนนานไปหน่อย 555+++  แต่ก็ได้สังเกตเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตด้านการเรียน  การทำงาน  ทั้งของเพื่อน ๆ น้อง ๆ และของตัวเอง

การเรียนอย่างเดียวมันก็ดีส่วนหนึ่ง  อันนี้เหมาะสำหรับคนที่มีพ่อแม่หรือใคร ๆ ที่ส่งเสียเราเรียนได้  ก็ถือว่าดีต่อเรามาก  (แต่ไม่เหมาะกับการดำเนินชีวิต !!!)

ส่วนการทำงานอย่างเดียว  ก็ถือได้ว่าเป็นการเรียนรู้นอกระบบการศึกษา  เรียนรู้เฉพาะในทางที่เราทำงาน  หากคนนั้นอ่านหนังสือทำความเข้าใจด้วยตนเอง  จะดีนักแล !!!

แต่ที่ดีที่สุดก็คือ  การทำงานแล้วเรียนไปด้วย !!! นั่นละดีที่สุด  นอกจากเราจะมีเงินใช้แล้ว  เรายังได้เรียนไปด้วยเรื่อย ๆ เพื่อสร้างตำแหน่ง  หาโอกาสก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน  นอกจากนั้นเราก็สามารถเข้าใจได้ง่ายกับสิ่งที่เรียน (ถ้าเรียนตรงสายงานเรานะ)  ถ้าเรียนไม่ตรงสายงานจะทำให้เราเรียนรู้ไม่ต่อเนื่อง  สับสน หางานข้ามสายงาน  มันยากกว่าการเีรียนรู้ในสายที่คุ้นเคย  และไม่ต้องหางานใหม่อีก  มันทำให้เราคุ้นเคยกับสายงานนี้  และถือได้ว่า  เป็นผู้มีประสบการณ์ตรงด้านนี้  แล้วคนส่วนใหญ่ก็จะหันมาปรึกษาเรานั่นเอง

แล้วทำไม  การเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย  ไม่เหมาะสมกับชีวิตตรงไหน ???
ไม่เหมาะสมตรงที่  การเรียนนี่แหละครับ  บางคนไม่มีหนี้ในการเรียนก็ดีไป... แต่บางคนต้องกู้เงินเรียนละ ??  มันไม่ดีตรงนี้ละ  นอกจากนั้น  เมื่อเรียนจบแล้วต้องมาชำระหนี้อีก  แล้วงานจะได้ตรงที่เรียนไหม  นั่นดิ  มันคิดยากตรงนี้ละครับ  ^_^"  ส่วนการทำงานก็ทำได้แค่งานนอกเวลาเรียน  เพราะเกรงว่าจะไม่มีเวลาเรียน  ได้เงินนิดหน่อย  พอจุนเจือ  ถูไถไปบ้าง  """  นอกจากนั้น  ยังมีความเครียดอีกหลาย ๆ อย่าง  บางครั้งก็คิดว่า  เรียนวิชานี้ไปทำไม  ไม่เกี่ยวกับงานสักหน่อย ประมาณนั้น ....   

สุดท้ายแล้ว  ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่  เราควรศึกษาหนทางอื่น ๆ ไว้อย่างกว้าง ๆ เข้าไว้  ถ้าชอบอันไหนก็ค่อยตัดสิ้นใจเรียนอันนั้น  แล้วมุ่งมั่นไปทางเดียวเลย  แต่เราควรมองชีวิตใ้ห้กว้าง ๆ เข้าไว้ด้วย  เพราะชีวิต  มันมีทางเดินให้เลือกมากมาย  ตามแต่เราอยากเป็นไป  ....

Blogger ของคุณมีความสมดุลสี แล้วหรือยัง ???



แน่นอนครับว่าการสร้าง Blog
ถือได้ว่าเป็นศิลปะเช่นกัน

นอกจากเราจะใ่ส่ ๆๆๆๆ  ข้อมูลแล้ว  เราต้อง แต่ง ๆๆๆ  เติม ๆๆๆ สีสันให้มันสมดุลด้วยครับ  เพื่อเป็นการดึงดูดความน่าสนใจของท่านผู้ชม  ทำให้น่าเข้าอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีในบล็อกแห่งนั้น  แห่งนี้  เป็นต้น

ส่วนเรื่องการแต่งเติมสีสันนั้น  อันนี้ก็ขึ้นกับไอเดียของแต่ละคนครับว่าจะให้ออกมาแนวไหน  บางคนทำออกมาแบบ  แนว ๆๆ  !!! ประมาณนั้น  บางท่านก็ทำออกมาซะเนียนเชียว  (จากการแอบดูบล็อกคนอื่น ๆ อะนะ)



มุมมองแบบไดนามิก คืออะไร ใช้อย่างไร

มุมมองแบบไดนามิก  เป็นอีกมุมมองหนึ่งที่ทาง Blogger นำเสนอ  ส่วนจะแตกต่างกันอย่างไร  ก็ขอกล่าวกันแบบนี้ครับ  

ข้อดี  ง่ายต่อการแสดงผล  อาจจะคล้าย ๆ แมกกาซีนก็ได้  แสดง Adsense ได้  ไม่เหมาะกับมือเก๋า ๆ เท่าใดนัก  ที่ต้องการสร้างความสละสลวยให้บล็อกของท่าน

ข้อเสียก็คือ  ปรับแต่งไม่ได้  จัดโครงสร้างบล็อกไม่ได้  น่าจะเหมาะกับมือมากกว่าครับ

เมื่อคนไม่ค่อยเข้า Blogger ทำไงดี ???


เมื่ือคนเราไม่อยากเข้าบล็อก  หรือ  อาจจะเข้ามาแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด  ก็ถือเป็นการ  "ละเลยการให้ทิป"  แก่ผู้เขียนบล็อกอย่างสิ้นเชิง  ถึงแม้ว่าการแสดงความคิดเห็นจะไม่มี  "ค่า"  ใด ๆ เลย  แต่มันก็มี  "คุณค่า"  อย่างมหาศาลกับผู้ตั้งใจเขียนเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของตนเอง หรือ อื่น ๆ เขาจะดีใจมากหากรู้ว่ามีคนแสดงความเห็นในพื้นที่ของเขา  เพราะพื้นที่แห่งนี้ก็คือการถ่ายทอดความคิดแบบสด ๆ ใส ๆ สะอาด ๆ  ท่านผู้อ่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้เต็มที่  แล้วแต่ทัศนคติของแต่ละท่านที่เห็นต่อบทความนั้น ๆ นั่นละคือ  "ผู้เยี่ยมยอดแห่งความคิดสร้างสรรค์"  

บางครั้งก็คิดในใจว่า  อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมไทย  ได้ปูทางให้เราไม่ค่อยกล้าแสดงออกทางปฏิบัติยังไม่พอ  แถมยังไม่แสดงออกทางความคิดอีกนะ  หุหุ....   อันนี้ก็ได้แต่ทำใจครับ  แต่ว่าเราชาวออนไลน์ก็น่าจะทราบกันดีแล้วว่า  การแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์สามารถทำได้เต็มที่อย่างมีจรรยาบรรณ  !!!  

บางครั้งก็อาจจะเป็นการเข้ามาชมแบบแง้ม ๆ ประตูบานหนึ่งเท่านั้น  อาจจะกำลังตัดสินใจว่าเนื้อหาน่าอ่านไหม  ???  หรือไม่ก็อาจจะลองเปิดเข้ามาดูโดยตั้งใจ  แต่ไร้ซึ่ง...ความคิดเห็น  มั้ง  ^_^"

ขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

อาหารทะเล (น่าทาานจัง)


อาหารทะเล  นอกจากจะมีไอโอดีนที่เพิ่มคุณค่ามทางโภชนาการแล้ว  ยังยั่วน้ำลายหลาย ๆ คนได้มากทีเดียว  ยิ่งถ้ามองรูปนี้  แล้วนึกถึงน้ำจิ้มเปรี๊ยววว ๆๆ !!!  จี๊ดดด !!!    (ว้าววว ... น้ำลายสอ แระ)  มันช่างเลิศรสอะไรอย่างนี้  กาลครั้งหนึ่งที่ผมเคยไปเที่ยวระยอง  และได้ไปทะเล  ทานของทะเล  เหล่สาว ๆ ^_^  555++   มันทำให้บรรยากาศตอนนั้น  ยังจำไม่เคยลืมลืนเลยละครับ  ลองลิ้ม  ลิ้มลอง  ดูนะครับ  มันวิเศษมากมายครับ ^_^  

ครั้งนี้มายั่วน้ำยาย  น้ำลายเท่านี้ครับขอตัวไปกินก่อนนะ ออิอิ...  ^_^"

ครั้งแรกของไทย !! "ร้องเพลงออนไลน" กับ "พี่เบิร์ด"


!!!เกิดอะไรขึ้นกับวงการเพลงไทย  !!!
!!!ทำไมพี่เบิร์ดชวนร้องเพลงออนไลน์ !!!
!!!เรื่องนี้น่าสนใจมากมาย !!!
!!!ลองคลิกเข้าไปชมนะ !!!

สถิติของบล็อก บ่งบอกอะไร ???

หลาย ๆ  บล็อกที่ผมเข้าไปเยี่ยมแต่ไม่เห็นติดตั้งสถิติของบล็อก  ถึงแม้ผมจะเข้าไปดูผู้ติดตาม  ก็ไม่พบว่าใครจะติดตามบล็อกแห่งนั้นเลย....

แล้วเราจะติดตั้งสถิติของบล็อกไปทำไม  ???  ก็เพราะว่า   ติดตั้งเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบล็อกของเรายังไงละ  อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่ามีคนเข้าชมกี่ร้อย  กี่พันคน

นอกจากนี้  เรายังสามารถทำให้บล็อกมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น  ก็คือ  การเพิ่ม Facebook Like Box นั่นเอง  เพราะคนส่วนใหญ่มักจะเล่นกันอยู่แล้ว

ครั้งนี้ก็นำเรื่องมาเล่าเพียงเท่านี้ครับ ^_^
ขอให้สนุกกับการสร้างบล็อกนะครับ
สวัสดีปีใหม่

หลังจากอ่านบทความ ที่ผู้เขียนบทความในวิกิพีเดียกล่าวไว้

สรุปจากการอ่านครั้งนี้ก็คือ 

  • วิกิพิเดียเป็นเว็บไซต์ข้อมูลฐานความรู้ 
  • เว็บไซต์ติดอันดับ 5 ของโลก
  • เป็นองกรค์ไม่แสวงหาผลกำไร  
  • ไม่มีโฆษณาหวือหวาบนเว็บไซต์
  • มีพนักงานไม่ถึง 95 คน
  • ใช้เซิร์ฟเวอร์ 697 ตัว
  • ฯลฯ  อ่านต่อคลิกที่นี่ !!!

แง่คิดที่สำคัญ ก็คือ
สิ่งที่ระบบเศรษฐกิจได้สร้างไว้ คือ  การที่ผู้คนจะทำงานเพื่อเงินเท่านั้น คุณมีวิธีอื่นที่จะให้ใครสักคนเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับเงินเลยได้อย่างไร?

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Amazing amazon book เป็นหนังสือพื้นฐานที่ดีมากอีกเล่มหนึ่ง


ที่ผมยกให้เป็นหนังสือพื้นฐานที่ดี  ก็เพราะว่า  ผมอ่านแล้วเข้าใจง่าย  เหมาะสำหรับมือใหม่  ที่ไม่ใช่สายปั่นเว็บไซต์  แถมในเล่มยังนำเสนอของฟรี ๆ ต่าง ๆ ที่น่าใช้งาน  ไม่ต้องลงทุนมากมาย  แต่ต้องต้องศึกษาให้มาก ๆ เข้าไว้  นอกจากนั้นยังนำเสนอเกี่ยวกับการตลาดไว้พอสมควร  แน่นอนครับว่า  ความสำคัญในการขายของ  ก็คือ  การตลาด  ถ้าเราไม่รู้ตลาด  เราจะขายของอย่างไรกัน  ถึงแม้เรามีเครื่องมือปั่นฯ ก็ตาม..  เราก็ได้แค่ปั่นครับ  เราไม่สามารถนำไปต่อยอดด้านอื่น ๆ ได้เลย  เพราะการปั่นมันเป็นความรู้แบบวงแคบ  ใช้ได้เฉพาะแผนธุรกิจบางอย่างเท่านั้น  แต่ถ้าคนปั่นใส่ใจในการหาความรู้เพิ่มเติม  อันนี้  ก็คือว่า  อัพเดททักษะของตนครับ ^_^



วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กว่าจะเป็นข้าราชการ (มันต้องผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างนะ)

คลิกดูรูปใหญ่

กว่าจะเป็นข้าราชการ
(มันต้องผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างนะ)

เดี๋ยวมาเขียนต่อ...ไปธุระก่อน...นะ
กลับมาแล้วครับ  มาเขียนเล่าประสบการณ์ต่อ  ^_^

กว่าจะเป็นข้าราชการนั้น  มันต้องผ่านอุปสรรคหลาย ๆ อย่างพอสมควร  และกว่าเราจะเรียนจบ ปวส.  ป.ตรี ป.โท  เพื่อให้ได้วุฒิใช้สมัครสอบ  ก็ต้องกัดฟันร่ำเรียนกันไป....

เมื่อจบและได้วุฒิแล้ว  ก็เป็นที่หมายปองของคนจบใหม่ ๆ  หรือ  จบมานานก็แล้วแต่  นั่นก็คือ  การสอบบรรจุรับราชการ  ขั้นแรกก็ต้องสอบให้ผ่าน  ภาค ก.  ก่อนนะครับ  แล้วค่อยสอบ  ภาค ข.  ภาค ค.  เพื่อป้องกันเด็กเส้น  !!!  เขาว่ากันอย่างนั้นครับ  มันเป็นการคัดกรองในระบบข้าราชการอย่างหนึ่งครับ


การสอบภาค ก.  หรือ  สอบทำงานอย่างอื่น  ก็เป็นการเปิิดโอกาสให้ชีวิตของเราครับ  ถ้าเราไม่เปิดโอกาสให้ตนเอง  เราจะพบกับความสำเร็จได้อย่างไรกันละ  ^_^  อย่างน้อยก็ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้น  ในช่วงท้าย  ๆ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก  เพราะเราเปิดโอกาสให้ตัวเองแล้ว....

จงเปิดใจ  เปิดโอกาสให้ตนเอง
ชีวิตจะได้มีสิทธิ์เลือกงานที่เราอยากทำได้

โอกาสเกิดขึ้นกับคุณทุกวัน
เพียงแค่คุณไม่เคยนั่งสังเกตมันเท่านั้นเอง

รับข่าวสารทางอีเมล์  รับรอง  ไม่ตกข่าว  ได้แนวคิดชีวิตมากมาย

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วารสารเทคโนโลยีสุรนารี มีอายุน้อยกว่า 10 ปี (แต่ถูกอ้างอิงอย่างต่อเนื่องทุกปี)



วารสารเทคโนโลยีสุรนารีเป็นวารสารวิชาการ กำหนดออกราย 3 เดือน จัดพิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี พ. ศ. 2537 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นสื่อกลางเผยแพร่ผลงานประเภทบทความวิจัย และบทความวิชาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของคณาจารย์และนักวิชาการ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ บทความที่ลงพิมพเป็นภาษาอังกฤษทั้งฉบับ โดยบทความที่จะนำลงตีพิมพ์จะต้องได้รับการพิจารณาทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละสาขา (peer review)

นอกจากนี้ จากผลการวิจัยเรื่อง
“ดัชนีผลกระทบการอ้างอิงของวารสารวิชาการภายในประเทศ (Research on Citation Impact Factor for Thai Academic Journals)” ของ ศ.ดร. ณรงค์ฤทธิ์ สมบัติสมภพ และคณะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ระบุว่าในปี พ. ศ. 2542 วารสารเทคโนโลยีสุรนารีเป็นเพียงวารสารเดียวในกลุ่มวารสารที่มีอายุน้อยกว่า 10 ปี ที่มีการอ้างอิงถึงอย่างต่อเนื่องทุกปี ในช่วง 5 ปี โดยมีตัวดัชนีบ่งชี้คุณภาพของวารสาร คือ JIF (Journal Impact Factor) ในระดับสูงสุด คือ 0.135

ที่มา

เสก โลโซ ดุเดือดท้าชนต่อตัว (รวมคลิปข่าวดัง !!!)

รวมคลิปต่าง ๆ เกี่ยวกับ ข่าวดัง  !!! ของ  พี่เสก-โลโซ








เปลี่ยนโปรไฟล์ Facebook เป็นแบบ Timeline ทำแบบนี้นี่เอง

หลาย ๆ คนคงจะหลงไหลในหน้าตาโปรไฟล์ใหม่ ๆ ของเพื่อน ๆ จนอยากจะใช้บ้าง ^_^  ขั้นตอนการใช้งานไม่ยุ่งยากและง่ายมากด้วยซ้ำ  ทำได้ดังนี้ครับ  ดังรูป






เป็นอย่างไรบ้างครับ  นี่ละครับ Facebook มันคือหน้าหนังสือ !!!  เราต้องใส่รูปหน้าปก  ด้วยละนะ 555++

จารึกประวัติศาสตร์อีกครั้ง กับ i Mobile stadium Buriram PEA


ประวัติศาสตร์หน้าเก่าได้จารึกไว้ว่า  "บุรีรัมย์มีเมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ"  ต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้  ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ก็ต้องจารึกอีกว่า  "บุรีรัมย์มีถิ่นไอโมบายสเตเดียม"  นั่นก็คือ  สนาม iMobile Stadium นั่นเองครับ  ^_^  พอดีไปเจอคลิปเกี่ยวกับการก่อร่าง สร้างสนามแห่งนี้  ผมก็เลยนำมาเก็บไว้เป็นที่ระทึกครับ  และสุดท้ายก็คือ  เพลงประสาทสายฟ้า  ที่แต่งและขับร้องโดย  พี่แอ๊ด  คาราบาว  ดนตรีมันส์ได้ใจจริง ๆ โจ๊ะ ๆๆๆๆ  มากมาย  ^_^

ส่วนการชมฟุตบอลของผมนั้น  ผมชมและเชียร์ทุกทีมครับ  เพราะว่า  บางครั้งผมกลับไปบุรีรัมย์ไม่ได้  ผมก็ไปดูทีมอื่น ๆ ในสนามใกล้เคียงกับที่ทำงานของผม  ก็ได้บรรยากาศสนุกสนานเช่นกันครับ  ถ้ามีโอกาสได้ไปบุรีรัมย์เมื่อไหร่ละก็  ผมก็ต้องไปชมบรรยากาศที่สนามไอโมบายแห่งนี้แน่นอนครับ

ขอส่งกำลังใจให้ฟุตบอลไทยก้าวหน้าต่อไป  อย่างไร้ขีดจำกัด
ขอบคุณครับ ^_^

ชมประวัติศาสตร์หน้าใหม่


ฟังเพลงแบบมันส์ ๆ 

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ติดตามทางอีเมล์ ดีตรงไหน ??? (Follow Blogger by Email)


การติดตามทางอีเมล์  ถือเป็นการรับข่าวสารที่เราสนใจ  เพื่อไม่ให้พลาดงานเขียนเรื่องนั้น ๆ หรือเรื่องราวสาระต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับตัวเรา  เราก็เลยต้องติดตามทางอีเมล์  นั่นละคือประโยชน์




ส่วนการติดตั้งคงไม่ยากมากมาย  เพราะว่า Blogger เขาจัดแจงเรื่องนี้ให้เราอยู่แล้ว  เรามีหน้าตกแต่ง  เขียนบทความ  และนำเสนอเท่านั้น  ดังรูปด้านบน  ในด้านการทำงานของระบบดังกล่าว  เราก็เพียงใส่อีเมล์เข้าไปในช่องว่างดังรูปด้านล่างนี้

เมื่ือเปลี่ยนโปรไฟล์ เป็น Facebook Timeline มันก็ออกมาแบบนี้

เห็นข่าวคราว  คร่าว ๆ ว่า Facebook จะไล่บังคับผู้ใช้ให้เปลี่ยนโปรไฟล์เป็น Timeline กันหมด  เอาละงานนี้..มันต้องเปลี่ยนแปลงอะไรอีกแล้วละทีนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องใช้มันต่อไปเพราะว่า  มันสนุกกกก !!! 555+++  มาดูกันว่าเป็นอย่างไร  อ้อลืมบอกไป  ว่า ... ถ้าเปลี่ยนเป็นแบบ Timeline แล้ว  จะเปลี่ยนกลับไม่ได้นะ ...  ซวยละงานนนี้ ... แหม...ถึงไม่เปลี่ยนก็ต้องโดนบังคับเปลียนอยู่ดีละครับ


ส่วนแรกจะแสดงรูปภาพใหญ่ ๆ เราสามารถกำหนดเองได้ครับ  และเปลี่ยนแปลงได้เรื่อย ๆ ตามใจชอบครับ  ถดมาก็จะเป็นจำนวนเพื่อน  รูปภาพ  สถานที่  และ  Wall ต่าง ๆ ครับ  คล้าย ๆ HI5 ครับ  ถ้ามองดูดี ๆ ทุกสิ่งเมื่อคิดสร้างสรรค์ไม่ออก  มันมักจะกลับมาสู่ความคิดเดิม ๆ อิอิ... ^_^





แสดง Feed to Blogger


ผมเห็นในกระทู้จะถามเรื่องการนำ Feed มาแสดงอยู่มากพอสมควร  ครั้งนี้ผมก็เลยนำมาเขียนบทความนำเสนอวิธีต่าง ๆ ไว้ ณที่แห่งนี้ละครับ  ท่านผู้อ่านที่แวะเวียนเข้ามาเจอบล็อกแห่งนี้ก็ขอฝากนำไปเผยแพร่ต่อด้วยนะครับ  ขอบคุณมากครับ ^_^

วิธีการแสดง Feed ทำได้ดังนี้ครับ

  1. คัดลอก URL บล็อกที่ท่านสนใจ
  2. จากนั้นนำไปใส่ไว้ดังรูปด้านล่างนี้
  3. คลิก  "ดำเนินการต่อ"
  4. จากนั้นจะแสดงหัวข้อให้เราทันที
  5. จบแล้ว !!!  ^_^


หมายเหตุ  หากท่านต้องการนำ URL ของเว็บไซต์ต่าง ๆ มาแสดงก็กระทำได้เช่นกัน  แต่รูปแบบ URL จะเป็นประมาณนี้  เช่น  http://ABCD.com/feed  หรือแบบอื่น ๆ ไม่ต่างจากนี้  บางครั้งก็ไม่สามารถแสดงได้  เพราะว่าเว็บไซต์นั้นไม่ได้ทำการสมัคร Feed  นั่นเอง  ^_^




เพิ่มกล่องถูกใจทำอย่างไร (Facebook Like Box)


การเพิ่มสีสันให้กับบล็อกถือเป็นการทำบล็อกขั้นสูง  ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ???  ก็เพราะว่าการสร้างมันง่าย  แต่การตกแต่งให้สวยงามมันยากครับ  มันคือศิลปะที่ออกมาจากใจ  โดยผ่านกระบวนการกลั่นกรองจากใจอย่างดีนั่นเองครับ ^_^

การเพิ่ม Facebook Like Box ทำได้ดังนี้ครับ

  1. เราต้องมี Fan page ก่อนนะครับ
  2. คัดลอก URL ของ Fan page นั้น
  3. เข้าไปที่  http://developers.facebook.com/docs/reference/plugins/like-box/
  4. เอาไม่ใส่ในช่องดังรูปด้านล่างครับ
  5. จากนั้นคัดลอกโค้ด  มาวางไว้ในบล็อกของเรา  เท่านี้ก็เสร็จครับ





กว่าจะสมัครบอร์ด Buriram PEA Forum ได้

หลังจากสมัครอยู่นานมาก   เนื่องจากต้องคัดกรองความเป็นส่วนตัว  เพื่อความปลอดภัยในสังคมออนไลน์ที่จะส่งผลทางตรงหรือทางอ้อมต่อทีม  อันนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจ...แต่สุดท้าย  ผมก็สมัครได้แล้วครับ  5555  ต้องขอขอบคุณ Admin อย่างสูงครับ

ด้วยความรักในบ้านเกิด...ก็เลยเถิดต้องเข้าสังคมออนไลน์กับเขาบ้าง  แต่อย่างไรก็ตาม  ผมเป็นคนชอบเล่น  ชอบดู  อยู่แล้ว  ไม่ว่าทีมไหน ๆ ผมดูหมดละครับ  แต่นี่คือทีมบ้านเกิดจะไม่ให้คลั่งไคล้  ก็กะไรอยู่ ชิมิ ๆ  อิอิ...  

รั้งนี้นำเรื่องเล็กน้อย ๆ มาเล่าให้ฟังกันนะครับ  ใครมีทีมในใจอยู่แล้วก้ถือว่าดีมากครับ  แต่ถ้าอยากนิยมชมชอบเพิ่มเติมละก็  ....เลือกกันได้อีกหลาย ๆ ทีมในไทยละกานนะ  ....  เพื่อส่งเสริมกำลังใจให้ชาติบ้านเมืองน่าอยู่มากขึ้น ^_^

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตัดปัญหา !!! แล้วปล่อยวางไว้ที่เดิม

บ่อยครั้งที่คนเราตัดปัญหา (คาใจ)  ไม่ค่อยได้  เป็นเพราะอะไรกันนะ ???  จากที่ผมเคยผ่านสภาวะเช่นนี้ก็พอมีแง่คิดอยู่บ้าง  จริงหรือไม่อย่างไร  ก็เสนอความคิดเห็นมาได้นะครับ ^_^

เมื่อมีปัญหาคาใจ  ไม่ว่าเห็ตการณ์ใดก็แล้วแต่  เราก็เพียงทำการ  ....

ตัดปัญหาแล้วก็ปล่อยไว้ที่เดิม

เมื่อเราตัดปัญหาแล้ว  จงเดินออกมาจากจุดนั้น  แล้วก็หันกลับไปมองเพื่อวิเคราะห์ให้ดีว่า  เราจะแก้มันอย่างไร  หรือบางคนอาจจะตัดปัญหาแล้วไม่มองกลับมาอีกเลย  ก็เป็นได้...

แต่ถ้าปัญหานั้นมันเกี่ยวข้องกับหลาย ๆ ส่วน เช่น  การทำงาน  ครอบครัว  ฯลฯ  เราก็ควรมองกลับมาหาทางแก้ไขต่อไป...

แต่ถ้าปัญหานั้นเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราโดยตรง  เช่น  ความรัก  หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกันแค่ ๒ คน  อย่างนี้เป็นต้น  เราก็อาจจะตัด !!! แล้วไม่มองกลับมาอีกเลยก็ได้  หรือจะมองกลับมาอีกก็ได้  แล้วแต่สมควรครับ

ดังนั้นแล้ว  ปัญหาในชีวิตประจำวัน  เราก็ต้องใช้ปัญญาที่เราสะสมมาเนิ่นนาน  มาแก้ไขดูละกันนะครับ  ลองแก้ไขแบบคิดสนุก ๆ กระตุกต่อมฮา  ก็น่าจะดีกว่ามานั่งเครียดกับมัน  ^_^  5555+++

ลองอ่านบทความดี ๆ จากคนตัดไม้ ดังรูปนี้  ได้ที่นี่ครับ

ผมเรียนเอาความรู้ไปทำงาน ไม่ได้เรียนเอาวุฒิไปสมัครงาน


ทุกวันนี้จะเห็นว่า  สังคมข้างนอก !!!  เขาสมัครงานกันหนักหน่วงขนาดไหน  และคนที่จบ ป.ตรี  บางครั้งก็ต้องยอมทำงานที่มีวุฒิต่ำกว่า  ป.ตรี   ทำไมต้องทำอย่างนั้น ???

จากที่ผมได้อ่านหลาย ๆ บทความ  ก็พบว่า  ด้วยการทำงานทุกวันนี้ล้วนต้องขึ้นกับการดิ้นรนของชีวิต  ถ้ามัวแต่เลือกงาน  เดี๋ยวจะไม่มีอะไรหาเลี้ยงชีพ  บางครั้งก็ต้องยอมสมัครงานต่ำกว่าวุฒิ  ป.ตรี  เพื่ออาจจะทำงานนั้นไปพลาง ๆ หรือเพื่อเรียนรู้งานนั้น ๆ ก็เป็นไปได้  อันนี้ต้องสอบถามกันเองละกันนะ 

ส่วนใหญ่สังคมชอบเหลือเกิน  ไอ้จบสูง ๆ !!!  เนี่ย ...  จบแล้วยังไงหรือ... ???  บางครั้งหางานที่ตรงสายแทบไม่ได้เลย ...  บางครั้งก็ได้งานที่ไม่ตรงสายที่เรียนมา  ... (ส่วนมากจะบ่นกันแบบนี้...)   

ลองเปลี่ยนทัศนคติกันใหม่  ดีไหม ???

เพื่อให้การดิ้นรนเอาชีวิตรอด  รวมทั้งครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังนั้น  เอาเป็นว่า  ทำอะไรก็ทำ !!!  จะดีกว่าการหางานที่เรามัวแต่เลือกอยู่   บางคนโชคดีได้งานที่ตรงสายงาน  ก็ถือว่าโชคดีไปละกัน (แต่ผมไม่ขอกล่าวถึง  นั่นเป็นส่วนน้อยครับ)  เมื่ือได้ทำงานตามที่เราเลือก  เพราะชอบ  (ไม่ใช่  ชอบเลือก นะ  555 +++)  จากนั้นก็หาเรียนรู้เพิ่มเติมในวันเสาร์อาทิตย์ก็ยังได้เลยครับ  นั่นคือการพัฒนาตนอย่างดีเยี่ยม !!!  แล้วเราก็เลือกสายงานด้านนี้  ความรู้ด้านนี้  หากินด้านนี้ 555 ลองดูสิ...ทีนี้ใครจะว่าเราได้  นอกจากเขาจะเข้ามาปรึกษาเราด้วยซ้ำ  เพราะเรามีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงและหากินด้วยความรู้นี้มานาน ...  


จากตัวอย่างบนโลกนี้  ก็มีให้พบเห็นกันทั่วไป  เช่น สตีฟ จ๊อบ  บิลเกต  Facebook Google สองอย่างหลังผมจำชื่อไม่ได้  และก็อีกหลาย ๆ คนที่ไม่ได้กล่าวถึง  คนที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ เขาไม่ได้จบปริญญาตรี  ที่สำเร็จได้ขนาดนี้เพราะว่่า...


เขาเห็นโอกาสของความสำเร็จ 
ก็เลยออกมาหาความสำเร็จนอกตำรา

เอาละครับ ... วันนี้มาสไตล์ใหม่  ก็เลยเขียนบทความได้อารมณ์แบบนี้  ... คนรุ่นใหม่เลี้ยงลูกแบบใหม่ ๆ ให้คิดเองทำเองบ้างนะครับ  แล้วเราก็คอยแนะแนว  แนะนำ  กันไป ...

เพื่องาน+ความรู้+การพัฒนาชีวิตของเขา


ประสบการณ์ ทาสี ครั้งหนึ่งในชีวิต


เนื่องจากเรามาด้านนี้โดยตรง  นั่นก็คือ  วิศวกรรมไฟฟ้า  O_O!!!  ก็เลยขอใช้วิชาความรู้ที่ร้ำเรียนมาให้เกิประโยชน์สูงสุด (จุดทาสีมันอยู่สูง..)  ก็เลยมาเป็นช่างทาสีจำเป็น  อิอิ...  เนื่องจากก่อนนั้นผมกับเพื่อน ๆ ได้ย้ายห้องสอนพิเศษมาที่ใหม่  แต่ยังไม่ได้ทาสี  ตกแต่งออฟฟิช  อันใดเลย 

เราก็มั่ว ๆ อยู่นานเพราะว่าการทาสีนั้น  ไม่เหมือนการเรียนหนังสือ   แล้วเราจะเป็นช่างฝีมือได้อย่างไร  นอกจากจะเป็น  ช่างไร้ฝีมือต่างหากเล่า  หุุหุ...

ทดลองหาวิธีอยู่นาน  ก็เลยมาค้นวิธีการทาสีใน Google ค้นหาไป...เครื่องคอมพิวเตอร์ก็ติดสีไป ...  ก็สรุปความรู้ได้ดังนี้  คือ
  1. ต้องเตรียมพื้นผนังที่เราอยากทาสี  ให้สะอาด  ไร้ฝุ่น
  2. จากนั้นทาสีเบา ๆ เพื่อรองพื้นไปก่อน  ใจเย็น ๆ มันคือศิลปะ  ศิลเประเปื้อน
  3. จากนั้นก็ทาสีทับ  ไปเรื่อย ๆ จนได้สีสด  เนียน ๆ 
  4. เมื่อได้ดั่งใจ  เราก็หยุดทาครับ  
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น  ก็มีความรู้นอกตำราเท่านี้ละครับ  ^_^
ขอบคุณที่ติดตามครับ


Show Popular Post ทำอย่างไร อย่างนี้ละ


ด้วยความเก๋าเกมส์  มีความรู้เรื่องการทำบล็อกมานาน  ก็เลยถ่ายทอดเคล็ดวิชา  Popular post ให้บรรลือโลกสักหน่อย...

Popular post คืออะไร  มันก็คือการแสดงบทความที่ผู้เข้าชมนิยม  เข้าไปอ่าน  เข้าไปดู  เข้าไปด่า !!! เป็นต้น  555+++   อันสุดท้าย  ผมไม่เคยเจอนะครับ  ส่วนการติดตั้งทำอย่างนี้นะครับ  ดังรูปเลย..