วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ตารางงาน ตารางแผนงาน Excel


การทำงานทุกวันนี้มีหลายเรื่องราวที่เราต้องจัดการ  องค์กรส่วนใหญ่ก็ปรับเปลี่ยนให้มีขนาดเล็กลง  แต่งานที่....มันเพิ่มขึ้น  !!!  การจัดการและทำตารางแผนงานคือเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่อาจทำให้การทำงานของเรา....ราบรื่นมากขึ้น  

หลาย ๆ คน หลาย ๆ แผนก  อาจได้ใช้ตารางงานเหล่านี้ในการดำเนินงาน และ ประชุมงาน  ถึงแม้ตารางแบบนี้อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง  แต่ก็ถือว่า  ค่อนข้างนิยมมาก  เห็นหลาย ๆ คนก็ใช้รูปแบบนี้ในการทำงาน

ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ไม่รู้เรื่องการจัดการงานมากนัก  การทำงานของผมก็อาศัยการค้นหาจาก Google เป็นส่วนใหญ่  แบบว่า...อันไหนใช้กับงานเราได้ แล้วทำสำเร็จก็เอาอันนั้นล่ะ  ส่วนรูปแบบตารางงานที่ผมนำเสนอนี้  อาจจะพอเป็นแนวทางให้หลาย ๆ คนได้บ้างนะครับ    หากมีใครเก่ง ๆ ด้านการจัดการ  ช่วยชี้แนะข้าน้อยครับ .... ขอคาราวะ  และขอบคุณอย่างยิ่งจากใจจริง ครับ



หากต้องการ  Excel ดังกล่าว  ติดต่อขอรับได้  โดยการติดต่อในช่วงด้านล่างบล็อกแห่งนี้  ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ

เว็บไซต์เรียนรู้ฟรี ๆ (ที่อยากแนะนำ)

http://www.gcflearnfree.org/excel2013/22.5





วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วิธีเพิ่มผู้เขียนใน Blogger (How to adding Blogger's Writer Assistance)

วันนี้ได้รับคำเชิญชวนให้เขียนเนื้อหาในบล็อก immayyo.blogspot.com   แล้วก็ได้ไอเดียการทดสอบระบบเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาทันที  หลังจากได้รับข้อความทาง Email โดยในเนื้อหามีดังนี้ครับ


หลังคลิก  "ยอมรับคำเชิญ"   มันก็จะเด้งไปสู่หน้าต่างอื่น  เพื่อให้คลิก  ""ยอมรับ""  แต่ผมไม่มีภาพขั้นตอนนั้น  และเมื่อคลิก ""ยอมรับ""   ระบบก็จะทำการโอนายชื่อบล็อก Mayyo  เข้ามาระบบ Blogger ของเรา  ดังภาพ


เมื่อลองคลิกเข้าไปดูใน Mayyo  ก็พบว่า  เราสามารถจัดการกับบทความต่าง ๆ ได้  


หลังจากได้ทดสอบเกี่ยวกับการเพิ่มผู้เขียนในบล็อก ทำให้มีไอเดียหลาย ๆ อย่าง  และพบว่าการช่วยกันเขียนเนื้อหาในบล็อกเดียวกันจะทำให้บล็อกเติบโตได้รวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย



วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชีวิตการทำงานกับกาแฟ

กาแฟมีหลายอย่างเหลือเกินในปัจจุบันนี้  ไม่ว่าจะเป็น  กาแฟสลิม (กินแล้วสลึมสลือ..ป่าว)  กาแฟชาเขียว  กาแฟผสมดีบุค  เป็นต้น  ล้วนสร้างมาเพื่อดึงดูดเงินออกจากกระเป๋าเราทั้งนั้น  กว่าจะได้พบรักกับรสชาติที่เข้ากับสไตล์ของเรา  ก็เสียริมฝีปากและลิ้นพองมาแล้วนับไม่ถ้วน
แต่เมื่อเราค้นพบกับความลงตัวของรสชาติ  เราต้องจำสูตรผสมไว้ให้ดี  หรือแม้จะเป็นกาแฟแบบทรีอินวันก็ตาม  เพราะรสชาติเหล่านั้นทำให้เรามีความสุขและเกิดจินตนาการได้เป็นอย่างดี  ซึ่งส่งผลดีต่อการทำงานอีกด้วย  !!!  🐭🐭🐹🐹🐢🐇🐇🐰🐓🐔

การทำงานทุกวันนี้ทำให้เราหนีไม่พ้นกาแฟ  มันเป็นของคู่กันไปตั้งแต่ตอนไหนด็ไม่รู้  รู้แต่ว่ามันเข้ากันได้อย่างสมดุลเชียวล่ะ  ยิ่งตอนเช้าๆ มักจะง่วง ๆ งึมๆ งัมๆ  สมองยังเบลอ...เพราะเธอไม่สบตาละมั้ง  ก็ต้องพึ่งพากาแฟให้ช่วยกล่อมประสาทนั้นเสีย  ช่วงบ่ายก็เช่นกัน  บางช่วงต้องใช้สมองคิดงานอย่างหนักหน่วง  จะง่วง เหงา หาว เหม่อ  คงไม่ทันเวลาแน่ๆ  😁😯😴😬😠

กาแฟทำให้ใจสั่น(แต่ไม่หวั่นไหว)  แต่ก็มีงานวิจัยที่ออกข่าวบอกเราๆ อยู่  ว่ามันเป็นผลดีต่อหัวใจ อย่างไรก็ตาม.. กินมากไปก็ไม่ดี  จะทำให้เราไม่นอน  ถอนไม่ได้  ร่ายกายเพลียเพราะไม่นอน  สุดท้ายแล้ว  เรื่องกาแฟเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์แต่ละคนว่าจะสร้างรสชาติของตัวเองอย่างไร  ควบคุมปริมาณให้ดี  กินมากไป..เดี่ยวติดกาแฟ  แก้ตัวยาก  ด้วยล่ะ


ขอบคุณที่ติดตามคับ
🐖🐷🐺🐂🐄🐸🐍🐼

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แจกฟรี Ebook "สร้างบล็อกสวย ๆ ด้วยตนเอง"

ปัจจุบันนี้  ไม่ว่าสิ่งใด ๆ ล้วนแต่ต้องมี “Share & Like” ให้แก่เพื่อน ๆ ในชีวิตจริง  ชีวิตออนไลน์  แต่ส่วนใหญ่ใหญ่จะเป็นโลกออนไลน์ซะมากกว่า ! และการแบ่งปันก็สามารถขับเคลื่อนให้ทุกๆ สิ่ง จากสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก  กลายเป็นสิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “ยิ่งใหญ่ไปไกลมาก!”

สำหรับ Ebook เล่มนี้  ผมเขียนขึ้นจากประสบการณ์การใช้ Blog มานานมากกว่า 5 ปี (ตั้งแต่ พ.ศ. 2550) ซึ่งจะช่วยให้หลายๆ คน ที่กำลังสนใจใช้ Blog เป็นตัวสื่อสาร  เก็บเรื่องราวประทับใจไว้เป็น Story หรือนำเสนอประสบการณ์ที่มีคุณค่าแก่เพื่อนๆ  ร่วมโลก  ได้ทำสิ่งนั้นอย่างราบรื่น  เรียบง่าย

Ebook เล่มนี้ผมเขียนด้วยภาษาง่าย ๆ สไตล์ของผมเอง มีเนื้อหาสาระ และเทคนิคการเผยแพร่ผลงาน Blog ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามอย่างมากมาย  และหวังว่าผู้สนใจจะได้ความรู้ตั้งแต่ระดับต้น  ไปจนถึงขั้นสูงงงง....ลิบลิ่วเชียว  นอกจากนี้ยังมีแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมให้ติดตามทาง Email ซึ่งจะทำให้ผู้สนใจไม่พลาดรับเนื้อหาเกี่ยวกับการพัฒนา Blog ให้ดียิ่งขึ้นๆ

Make a blogger




อ่านแล้วเป็นอย่างไร แนะนำเข้ามาได้ครับ




ลงทุนกองทุนรวม KTSE และ KTSF โดย Topperation (ตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ)

หลังจากศึกษาเกี่ยวกับกองทุนรวมมานานพอสมควร  มีคนแนะนำอยู่หลาย ๆ เรื่อง  ตลอดจนกระทู้ใน Pantip ที่ทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้น  ว่าการลงทุนควรกระจายไปหลายๆ  กองทุน  เช่น   BCAP, BKD, KFSDIV, KYFLEX-D, KTSE, KTSF, SCBDV, HIDIV, PPSD, T-low beta เป็นต้น

ผมก็เลยตัดสินใจเลือกประมาสองกองทุนเก็บไว้ในใจ  ก็คือ   KTSE  และ  KTSF  ของ  บลจ.กรุงไทย  ซึ่งเป็นธนาคารที่ผมใช้รับเงินเดือนในแต่ละเดือน  และเก็บออมมาตั้งแต่เด็ก ๆ  

ผมคิดว่ามันคงเป็นทางเลือกที่ดีในด้านการถ่ายโอนเงินซื้อนั่น  ซื้อนี่  และอาจมีเครดิตด้านการเงินที่ดีแอบอยู่เบื้องหลังก็เป็นได้

ทั้งสองกองทุนนี้  มีการปันผลที่ใกล้เคียงกัน  อาจจะเป็นเพราะระดับความเสี่ยงที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน  แตกต่างกันเพียง  ตัวหุ้นหรือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ บลจ. ได้ลงทุนไป  ซึ่งตอนนี้ NAV บางตัวก็อยู่ที่ประมาณ 9 บาทกว่า ๆ  และ อีกตัวก็ประมาณ 11บาทกว่า ๆ   ผมก็เลยรอเวลาให้ NAV ลงไปกว่านี้  แล้วค่อยเข้าไปซื้อกองทุนสะสมไว้  

ตอนค้นหาข้อมูลก็ยากพอสมควร  ว่า  ทางธนาคารเปิดซื้อขายวันเสาร์  อาทิตย์ หรือไม่ ?  แต่ก็ค้นจนเจอ จนได้ สรุปว่า  ธนาคารกรุงเปิดซื้อขายวนเสาร์ และ  อาทิตย์  ด้วยนะครับ  อ้างอิงตามนี้ครับ

https://th-th.facebook.com/KTAMSmartTrade/posts/641987652484203


ตอนนี้ที่ทำได้ก็คงต้องจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อไปทำเรื่องซื้อขายกองทุนรวม  เดี๋ยวหลังจากวันนั้นผมจะมาเขียนเล่าให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันนะครับ 

ขอบคุณที่ติดตามครับ







วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

มื้อนี้ ... ต้มโคล้ง ไวไว เต็มหม้อข้าว เบยยย

วันนี้.... หลังจากเลิกงาน ก็นั่งรถโดยสารกลับมาที่พัก  ฝนก็ทำท่าจะตกอีกนะ... หิวก็หิว  แต่ก็ใกล้จะถึงที่พักแล้วล่ะ   พอมาถึงที่พักเท่านั้นล่ะ ... ครีเอทีฟ ในตัวเราก็ได้โลดแล่น แตกตุ๊บ  นึกอยากกินไวไว ต้อมโคล้ง  ก็เลยจัดทุกอย่างลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า แล้วก็เผด็จศึก  ดังภาพ














วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

กรุงไทย จัดสัมมนา สุดยอดงานแห่งปี

สุดยอดงานสัมมนาแห่งปี ฟรีตลอดทั้งงาน
พบกับ SME ตัวจริง ที่จะมาเผยเคล็ดลับจับเทรนด์ธุรกิจกันแบบเจาะลึก
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 เวลา 12.00 – 16.30 น.
ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ บี ชั้น 22
โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ 
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน https://goo.gl/nrLx0H


เมื่อชีวิตได้ผ่านจุดๆหนึ่ง  ที่เราพอมีเงินเก็บและอยากจะลงทุนเพื่อสร้างความรู้และเรียนรู้สิ่งท้าทายใหม่ๆ  ผมนั่งหาข้อมูลอยู่นานเกี่ยวกับการเปิดอบรมของกรุงไทย  จนวันนี้ก็ได้พบกับข้อมูลดังกล่าว  ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องของหุ้น  แต่ว่า...ความรู้ที่ได้มานั้น อาจทำให้เราก้าวสู่ธุรกิจ SME ได้อย่างระวังตัวอีกด้วย





วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

DraftSight สร้าง Block อย่างไร ?



Work Instruction (WI)

1. ลากครอบ Graphics ที่สร้าง
2. เลือก Icon สร้าง Block
3. ตั้งชื่อ  เช่น Fuse
4. ใส่คำอธิบาย  เช่น Spec ต่าง ๆ
5. เลือกพื้นที่บน Graphics ที่ลากครอบ
6. คลิก OK ยืนยัน


DraftSight is easy to make a Drawing



บ่อยครั้งที่ผมใช้ DraftSight ในการเขียนแบบทางไฟฟ้า  ตอนนี้ DraftSight ยังเป็น Free version บริษัทของผมเองก็ได้มาลงโปรแกรมตัวให้ใช้งาน  ซึ่งการใช้งานไม่ได้แตกต่างจาก AutoCAD มากนัก  และงานส่วนใหญ่ที่ทำเสร็จไปนั้น  ล้วนใช้คำสั่งพื้นฐานทั้งนั้น  ตอนนั้น...ถือได้ว่าใช้งานได้สนุกมากครับ

พอมาตอนนี้  DraftSight  ก็ได้พัฒนาไปมากแล้ว  หากต้องการใช้งานจริง ๆ จัง ๆ คงต้องเสียเงินเล็กน้อยเพื่อใช้งานแบบ Professional  ซึ่งจะมี Tools ต่าง ๆ ช่วยเราทำงานได้ง่ายขึ้น  เช่น Table List BOM เป็นต้น  แต่ก็ยังมี Free version ให้ผู้เริ่มต้นได้ลองใช้งาน

คู่มือภาษาไทย  ผมค้นหาแล้ว...แต่ยังไม่มีใครทำไว้  ที่มี...ก็เป็นภาษาอังกฤษ  เดี๋ยวผมศึกษาการใช้งาน  DraftSight จะนำมาแบ่งปันเรื่อย ๆ นะครับ

ศึกษาข้อมลเพิ่มเติม ได้ที่ ......
http://www.3ds.com/products-services/draftsight-cad-software/free-download








วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทำงานอย่างไรให้คล่องตัว ?



หลังจากชีวิตอยู่ในวัยทำงานมาประมาณสองปี  การค้นหาวิธีการทำงานให้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และถูกต้องนั้น ต้องอาศัยประสบการณ์ชีวิต (สปช) ซะเป็นส่วนใหญ่ 

 ส่วนน้อยที่จะได้ใช้ทักษะขั้นสูงตามที่ได้เรียนมาเมื่ตอนสมัยมหาวิทยาลัย 

การทำงานให้คล่องตัว  จริงๆ แล้วไม่ต่างจากตอนเรียนมัธยมหรือมหาวิทยาลัย  ซึ่งขอสรุปเป็นข้อๆ ได้ดังนี้


  1. สร้างสัมพันธไมตรี รู้จักคนให้มากๆ  เพราะการทำงานต้องติดต่อกับทุกคน (บางคนไม่ชอบวุ่นวายกับคน...อันนั้นคงยากที่จะทำงานร่วมกันได้)
  2. ฝึกเล่น  หัดใช้  โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ  ที่ช่วยในการทำงาน  ไม่จำเป็นต้องเก่ง  เอาแค่พอให้งานจบ..เป็นพอใช้ได้
  3. อ่านหนังสือที่ช่วยทำงานคล่องตัวให้มากๆ  เพราะจะได้มีมุมมองในการทำงานหลายๆด้าน ทำให้มองออกว่า....งานนี้จะจบ..เมื่อใด ด้วยวิธีไหน?

ทั้งสามข้อนี้ น่าจะเพียงพอต่อการทำงานให้คล่องตัวนะคับ  ที่เหลือ...ก็ขึ้นอยู่กับการนำไปปรับใช้ของแต่ละคน  ว่าจะต่อยอดอย่างไรให้เข้ากับสไตล์การทำงานของเรา. ???



Blogger templates add new expressions



Blogger's template engine is powered by a flexible editing language, consisting of a set of Widget Tags which use expressions to conditionally change the output HTML for each post and page on your blog.

Using these expressions, you can customize the HTML output of your blog, to adjust the look and feel. You could, for example, show an image behind the header, but only on the homepage. Or add a flower icon, next to a post's title, if the post has the 'Flower' label.

You can customize your blog's template under Settings > Template > Edit HTML.





วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หนังสือ คิดอย่างผู้นำ ทำอย่าง Google



ครั้งแรกที่ได้เดินทางแถวๆ จุฬา. ขึ้นรถเมย์ไปลงจตุจักแล้วต่อรถไฟฟ้าใต้ดินไปยังจุดหมายปลายทาง ผมก็ได้พบกับหนังสือนี้ในร้านแห่งหนึ่ง  เมื่อเปิดอ่านด้านในคร่าวๆ ก็ถูกอกถูกใจเป็นอย่างมาก  และผมก็ชื่นชอบการทำงานสไตล์ google  อยู่แล้ว  ผมก็ควักเงินซื้อทันที....

เมื่อนำกลับมาอ่านที่ห้อง  แง่มุมหลายๆ ด้านตอบโจทย์ความคิดของผมเป็นอย่างยิ่งและน่าจะตอบโจทย์ผู้บริหารหลายๆองค์กร  ซึ่งแนวคิดที่ได้มีดังนี้
  • ทำไมถึงทำธุรกิจลักษณะนี้?
  • ทำไมออกแบบองค์กรให้ดูแบนราบ?
  • ทำไมคัดเลือกพนักงานบนพื้นฐานของการมีครีเอทีฟ?
  • ทำไมออกแบบโปรแกรมจาก comment ของผู้ใช้งาน?
  • ทำไมนวัตกรรมหลายๆอย่าง เกิดขึ้นจากความสนุกสนานในการร่วมวงสนทนา?
  • ฯลฯ

หนังสือเล่มนี้คงช่วยให้หลาย ๆ คนเปิดมุมมองของตนเองซะที   
เพื่อไปให้ถึงอนาคตของธุรกิจ ... ที่มันควรจะเป็น



วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เข้าไปลองกินไอติมร้านนี้


เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เข้าไปลองกินไอติมร้านนี้  ตั้งร้านอยู่ข้าง ๆ ร้านทำฟัน  หน้าซอยหมู่บ้าน 200 ปี รังสิต  ปทุมธานี   เป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ซอยแรก ๆ ไม่ไกลมากนัก

เมื่อเดินมาพบร้านนี้  ว่าววว..!! ลูกค้าเต็มร้านเลยล่ะ  บรรยากาศร้านนี้เป็นร้านนั่งกินธรรมดา 

แต่....ความอร่อยอยู่เหนือสิ่งที่เห็น  !!!

จากนั้น  ผมก็สั่งไอติมมาลองกินดู  ถ้วยเล็ก  ราคา 20 บาท  ใส่โน่นนี่นั่น ได้ไม่เกิน 3 อย่าง  ที่เห็นในถ้วยอะครับ  คุณค่าทางอาหารมีมากมาย  นี่คงเป็นสิ่งจูงใจให้หลาย ๆ คนมากินไอติมร้านนี้

เมื่อผมได้กินคำแรก....  อร่อยมากกกก... ครับ   หวานหอม  ฟุ้งฟิ้ง ...  ถั่วแดง  ฟักทอง  และแป๊ะก๊วย  รสชาติอร่อย นุ่ม  ทุกอย่างลงตัวมากครับ

หากใครผ่านมาทางนี้ ลองเข้าไปชิมดูนะครับ  ร้านเปิดประมาณ  15.00 น. จนกว่าของจะหมด  ฝากร้านนี้ไว้ด้วยนะครับ






วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ครั้งแรกของการตัดสินใจเรียน มสธ. วิทยาการคอมพิวเตอร์ (ตอนที่ 1)



นั่งคิดอยู่นานพอสมควร  ว่าจะเลือกสาขาไหนดี  เพราะตอนนี้มีงานประจำที่ต้องทำด้วย  ระหว่าง  บริหารธุรกิจ(การเงิน)  เทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรม  และวิทยาการคอมพิวเตอร์  

หลังคิดวิเคราะห์อยู่นาน  ตอนกรอกใบสมัครผมเลือกสาขาเทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรม  แต่ลองคิดทวนดูอีกครั้ง....ผมก็ตัดสินใจสมัครสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์  ซึ่งเหมาะสมกับผมในตอนนี้มากกว่า

ผลเหตุที่เลือกสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เนื่องการทำงานทุกวันนี้ของผม  ต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำงานทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็นทำงานด้านเอกสาร  ด้านวิศวกรรมควบคุมเครื่องจักรและระบบไฟฟ้า  การคำนวณและประมวลผลสัญญาณ  การออกแบบ  การติดต่อสื่อสาร  ทุกอย่างใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการจัดการงานทั้งสิ้น  

ส่วนสาขาเทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรมไว้เรียนหลังจากเรียนสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์แล้ว  เพราะว่าผมก็ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว  ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรม....อาศัยการเรียนรู้จากงานจริงไปพลาง ๆ ก่อน  เมือโอกาสเหมาะสมก็จะได้เรียนสาขานี้ต่อไป  และเมื่อนั้น....ผมจะได้ใช้ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้งานกับด้านเทคโนโลยีการผลิตอุตสาหกรรม  คงเกิดสิ่งใหม่ ๆ อย่างน้อยก็สักหนึ่งชิ้นงาน

ตอนนี้ผมก็เริ่มสมัครเรียนแล้ว  ส่วนบรรยากาศการเรียนจะเป็นอย่างไรนั้น  ผมจะมาเล่าให้อ่านกันอีกครั้งนะครับ   เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครหลาย ๆ คนที่กำลังสนใจเรียนรู้ด้วยตนเอง  และข้อมูลด้านนี้หาอ่านยากมาก  ไม่ค่อยเห็นใครเขียนบทความให้เราได้ศึกษา  เรียนรู้คร่าวๆ ก่อนเลย

ส่วนแนวทางการศึกษา  มสธ.  ผมเอามาจากหน้าเพจแห่งหนึ่งครับ  ลองอ่านดูนะครับ  เผื่อมีกำลังใจ

https://th-th.facebook.com/RwmTawMsthWichaXekThekhnoloyiKarPhlitXutsahkrrm/posts/314348535367684


เทคนิคการเรียนกับมสธ

ก่อนอื่นต้องขอ ออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้เป็นผู้รู้หรือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการศึกษา แต่มีเพื่อนหลายท่านถามมาเกี่ยวกับเทคนิคการเรียน เรียนอย่างไรให้ประสบความสำร็จ และต้องทำอย่างไร ผมถือว่าถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับรู้มาละกันนะครับ

เริ่มแรกที่สมัครเรียน แต่ละท่านก็คงจะมีจุดประสงค์แตกต่างกัน เช่นอยากปรับต่ำแหน่งหน้าที่การงาน อยากเพิ่มคุณวุฒิ อยากเปลี่ยนงาน อยากได้ปริญญาสักใบ หรือเรียนเป็นเพื่อนลูก เรียนอยากให้ลูกเห็นว่าพ่อหรือแม่ก็จบปริญญานะ แต่ละคนก็มีจุดมุ่งหมายของตัวเอง ส่วนใหญ่นักศึกษาของมสธ จะอยู่ในวัยที่ทำงานแล้ว และไม่มีเวลามากพอที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยปิดทั่วไป ก็เลยมาลงตัวที่ มสธ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นมหาลัยเปิดที่สมบูรณ์แบบ ขนาดเรียนในเรือนจำยังได้เลย 

( ถ้าได้ย้ายไปอยู่ในนั้นชั่วคราวก็ไม่มีปัญหาในการเรียนอย่างต่อเนี่อง …อิอิ แต่คงไม่มีใครอยากเข้าไป ) 

ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ

เทคนิคที่1 เราต้องสร้างแรงจูงใจในการเรียน เรียนเพื่ออะไร จะได้อะไรในการเรียนสาขานี้ เรียนจบแล้วจะเป็นอย่างไร แรงจูงใจ จะทำให้เราอยากที่จะเรียน เมื่อเกิดปัญหาหรืออุปสรรค์ จะทำให้เราไม่ท้อถอยง่ายๆ

เทคนิคที่ 2 การมีเพื่อนหรือกลุ่ม จะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่โดดเดี่ยวในการเรียน เคยมีความรู้สึกนี้มั้ยครับ ตอนที่สมัครเรียนใหม่ๆ เราจะเรียนยังไง สมัครเป็นเดือนแล้วหนังสือทำไมยังไม่ได้  ได้หนังสือแล้วทำไมเยอะจัง แล้วจะอ่านยังไง  ข้อสอบจะออกแนวไหน แม้กระทั่งสอบแล้วรู้สึกทำข้อสอบไม่ได้เลยคงเรียนไม่ไหว รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่ไหวแล้ว (เลิกเรียนดีกว่า) การที่เรามีกลุ่มจะทำให้ขจัดปัญหาแบบนี้ มีเพื่อนปรึกษากัน อาจจะส่งสรุปให้กัน หรือให้คำแนะนำว่าข้อสอบที่เคยออกมาออกแนวไหน ถึงจะตกเราก็จะมีความรู้สึกที่ดี คือมีเพื่อนตกหลายคนไม่เป็นไร เรามาซ่อมด้วยกัน (หัวอกเดียวกัน) อาจจะมีเมล์ของเพื่อนไว้ติดต่อ หรือมาโพสข้อความไว้ในบอร์ดบ้างบางครั้ง ส่งข้อความดีๆให้เพื่อนบ้างบางโอกาส

เทคนิคที่ 3 จัดตารางเวลาเรียนให้ตนเอง และทำให้ได้ ข้อนี้อาจจะทำลำบากหน่อย แต่ถ้าอยากเรียนให้จบเราก็ต้องทำ ถือคติที่ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อาจจะกำหนดว่าอาทิตย์นี้เราจะเรียนรู้วิชาอะไรบ้าง หน่วยไหนบ้าง กำหนดเวลาว่างของเราและเวลาที่ใช้ในการอ่านหนังสือให้ตรงกัน ถ้าไม่รู้วันหยุดของตัวเองแน่นอนก็ให้กำหนดว่าหยุดแล้วจะอ่านหน่วยไหน และทำให้ได้ เมื่อทำได้แล้วอาจจะให้รางวัลกับตัวเองบ้างเล็กๆน้อยๆ(หลายครั้งที่ผมกำหนดกับตัวเองว่าถ้าอ่านหน่วยนี้จบ ผมจะเล่นเกม แล้วก็เล่นจริงๆนะ ก่อนสอบวิศวะพื้นฐานช่วงเช้ามืดยังเปิดซีดี อัสนี - วสันต์ ร้องคาราโอเกะตามไปด้วยเสร็จแล้วก็ทบทวนเนื้อหาที่จะสอบอีก 1 รอบ ) เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ทำให้เราไม่เครียดในการเรียน

เทคนิคที่ 4 อ่านจบหน่วยไหนต้องทำสรุปและวิเคราะห์เนื้อหา บางท่านอาจจะบอกอ่านยังไม่ค่อยเข้าใจเลย แล้วจะสรุปยังไง ให้วิเคราะห์อีกงงไปใหญ่ แต่อย่าลืมว่าแต่ละหน่วยเขาจะให้ไกด์ไลน์มา หรือแนวทางในการเรียนรู้ ก็คือจุดประสงค์การเรียนรู้นั่นเองเพราะจุดประสงค์การเรียนรู้คือสิ่งที่ทางอาจารย์ อยากให้นักศึกษารู้และให้เข้าใจ และข้อสอบก็จะออกตามจุดประสงค์การเรียนรู้ ถ้าเราอยากทำข้อสอบได้เราต้องตอบคำถามจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ได้ แปรจุดประสงค์ให้เป็นคำถามและเอาเนื้อหาในหนังสือมาตอบ ก็คือทำสรุปย่อนั่นเอง ยกตัวอย่างบางหน่วยอาจจะมี 150 หน้า แต่เราสรุปตามจุดประสงค์การเรียนรู้เหลือ 10 หน้า แล้วเวลาใกล้สอบเราก็นำสรุปย่อนี้มาอ่านอีกครั้งหนึ่ง หรืออ่านหลายๆครั้งถ้ามีเวลา อ่านสรุปแล้วงงไม่แน่ใจที่มาที่ไปก็มาดูเนี้อหาสาระรายละเอียด ในหนังสือได้อีก

เทคนิคที่ 5 บันทึกสรุปย่อเป็น MP3 ไว้ฟัง ผมเป็นคนหนึ่งที่ต้องบอกว่าส่วนตัวขี้เกียจอ่านหนังสือ ถ้าอ่านไปแล้วก็ไม่อยากอ่านซ้ำอีกรอบ ผมก็จะนำสรุปที่ทำมาอ่านใส่เครื่องเล่น MP3 แล้วเปิดฟัง อาจจะฟังช่วงขึ้นรถไปทำงาน ไปต่างจังหวัด นอนฟัง บางครั้งก็สลับกับการฟังเพลงบ้าง จะทำให้เราจำเนี้อหาได้ดียิ่งขึ้น เมื่อก่อนเรียนกฎหมายต้องใช้ความจำมากก็เลยอ่านใส่เครื่องบันทึกฟังก่อนนอนคือหลับก็ยังฟังอยู่ใช้ได้ผลแฮะ พอตอนสอบจำได้แม้กระทั้งมาตรา ตัวเลข จำนวน ตอนทำข้อสอบยังงงตัวเองเลยว่าจำไปได้ยังไง ก็ถือว่าเป็นเทคนิคที่น่าสนใจครับ

เทคนิคที่ 6 ทบทวนทำแบบฝึกหัดและแบบประเมินก่อนเรียนหลังเรียน การที่เราทำและทบทวนจะช่วยในแง่การคิดและวิเคราะห์ตาม หลายครั้งที่ข้อสอบจะเอามาจากแบบประเมินก่อนและหลังเรียน แต่อาจจะเปลี่ยนคำถาม หรือคำตอบ แต่เนี้อหาจะคล้ายกัน

เทคนิคที่ 7 สอนเสริมต้องดู วิชาไหนถ้ามีการสอนเสริมจะมีประโยชน์มากควรจะหาโอกาสดูเช่นสอนเสริมผ่านอินเตอร์เน็ต เราจะได้ความรู้ใหม่ และอาจารย์ก็อาจจะบอกแนวข้อสอบ แต่เราควรเตรียมตัวก่อนคือรู้ว่าจะสอนเสริมเรื่องอะไรและควรดูหนังสือล่วงหน้า เพื่อจะได้เข้าใจดียิ่งขึ้น พยายามทำโนตย่อหรือทำสรุปสอนเสริม จะเป็นประโยชน์ในการสอบมาก

ก่อนจบขอเสริมอีกเรี่องหนึ่งคือ หลักการใช้ อิทธิบาท4 หรือหลักธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จ มาประยุกต์ในการเรียน ได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา 

ฉันทะ = มีความพอใจมีใจรักในการเรียน และชอบที่จะเรียนวิชานี้ เช่นผมชอบวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพราะรู้สึกว่ามีประโยชน์ได้ช่วยเหลือตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนที่ทำงาน ก็จะเกิดความรักและอยากที่จะเรียน 

วิริยะ = เมื่อมีความรักในการเรียนแล้วจะมีวิริยะตามมาคือ ความพากเพียร ขยันในการดูหนังสือ เพราะใจเรามีความชอบยิ่งดูก็รู้สึกได้ประโยชน์ เป็นความรู้ที่ดี ได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

จิตตะ = มีความเพียรแล้วเราก็จะต้องมีความเอาใจใส่ ความตั้งใจ สมาธิ ในการดูหนังสือตามมา ก็คือจิตตะ 

วิมังสา = การพินิจพิเคราะห์ หรือความเข้าใจ ทำความเข้าใจกับเนี้อหาในการเรียน คือใช้ปัญญาคิดตามไม่อ่านลวกๆเพื่อให้จบ อ่านแล้วคิดตาม

ท่านที่ถามมา  ผมขอตอบในนี้นะ จะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนท่านอื่นบ้าง วันนี้ว่างก็เลยนั่งเขียนบทความ หวังว่าคงไม่เป็นการนำมะพร้าวห้าวมาขายสวน นะครับ

มีประโยคหนึ่ง อาจารย์วันเดิม พูดไว้น่าสนใจ....
ถ้าเป้าหมายหลักของท่านคือต้องการความรู้ 
ท่านจะได้ทั้งปริญญาบัตรและความรู้
ถ้าเป้าหมายหลักของท่านคือต้องการปริญญาบัตร 
ท่านอาจจะได้เพียงใบปริญญาบัตรเท่านั้นโดยไม่ได้ความรู้ไปด้วย 
หรือท่านอาจจะไม่ได้ทั้งสองอย่างเลยก็ได้







วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ย้ายแผนกมาหลายครั้ง ทำให้เกิดอารมณ์ "เสียเซลฟ์"



หลังจากที่่ย้ายแผนกมาสามครั้ง  เพราะว่าแผนกต่างๆ ขาดแคลนพนักงาน  จึงย้ายไปช่วยงานนั้น  ก็ทำให้เกิดคำถามหลาย ๆ อย่าง คือ

คำถาม
ย้ายอะไรนักหนา ?  
ย้ายแล้วทำให้การงานดำเนินได้เร็วจริงหรือ ?  
ช่วยเพิ่มทักษะให้พนักงานได้จริงหรือ ? 
ฯลฯ ???

จากคำถามเหล่านั้น  ก็พบคำตอบด้วยตนเอง  ทำไงได้ล่ะ  เพราะผมคอผู้แสดงนี่นา... คำตอบที่ได้ค้นพบก็คือ

คำตอบ  เกิดความล่าช้าในการเรียนรู้งาน  ไม่มีระบบสอนงานก่อนเริ่มงาน  ให้เรียนรู้ด้วยตนเอง
การแก้ไข  แน่นอนว่าประเด็นนี้จะให้เกิดความรวดเร็วใการเรียนรู้ต้องมีระบบ "พี่เลี้ยง หรือ Coaching" เพื่อสอนงานให้พนักงานที่เข้ามาแผนกนั้นใหม่ ๆ ได้เรียนรู้งานได้ดีขึ้น  การเรียนรู้ด้วยตนเองไม่ได้ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นแถมยังล่าช้าอีกด้วย  จะกลายเป็นการเพิ่มต้นทุนให้องค์กรอีกด้วย  นอกจากนี้สภาพจิตใจของพนักงานจะเกิดความหดหู่ใจ  เพราะว่า  ไหนจะยอดผลิต  ไหนจะต้องเรียนรู้งานใหม่ ๆ  เพราะเงินเดือนของพนักงานผูกไว้กับสิ่งเหล่านี้ด้วย มิใช่รึ... โปรดเข้าใจด้วยนะ  ผจก. และ  บอร์ดบริหาร  ทั้งหลายแหล่

คำตอบ  ได้ทักษะเพิ่มหลายด้านจริง  แต่... ล่าช้า  ลืมขั้นตอน  เพราะว่าการโยกย้ายไปทำงานหลาย ๆ ด้านทำให้มุ่งมั่นงานนั้นๆ  ส่วนงานอื่นจะเลือนลางไปจากความจำ
การแก้ไข  แน่นอน  สิ่งที่เกิดย่อมเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์  การได้เพิ่มทักษะให้พนักงาน  ถือเป็นการบริหารงานอีกด้านหนึ่ง  แต่จะยอมรับได้หรือไม่จากความล่าช้าที่เกิดขึ้น  บางครั้งพนักงานก็ลืมงานนึง  เพื่อตั้งสติมาทำงานนึง  WI อาจช่วยได้ระดับหนึ่ง  แต่ต้องให้พี่เลี้ยงมาประกบตัวช่วงแรก ๆ เช่นเดิม  ซึ่งอาจจะทำงานได้เร็วขึ้นกว่าช่วงที่เรียนรู้งานใหม่  แล้ว...ใช้วิธีบริหารแบบอื่นได้หรือไม่ ?

คำตอบอื่น ๆ
การทำงานที่ล่าช้า  การเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อรองรับตลาด AEC  ระบบความปลอดภัย  ระบบสิ่งแวดล้อม  และอื่น ๆ สิ่งเหล่านี้  บางครั้งทีมวิศวกรก็มุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเสนอข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการประชุมแต่ละระดับ  ผจก.  MD หรือ บอร์ดบริหาร  ถ้าไม่เห็นด้วย  ไม่เอาด้วย  

ใช้แนวคิดเดิม ๆ มาบริหารงาน  ....

ไม่เด็ดขาดไม่ตัดสินใจ  โยนงานไปมา  ซึ่งมันน่าละอายยิ่งนัก  ขาดจรรยาบรรณ  

ต่อให้ทีมไหน ๆ มาทำงานให้ก็ไร้ประโยชน์ !!!

ถ้าถามผมว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรเพื่อรองรับอนาคตที่สดใส ??
ผมจะตอบว่า... เปลี่ยนบอร์ดบริหารก่อนได้ไหม ???





วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชวนชม อมชมพู @ ร้านครัวปทุม (ข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา)





วันนี้เป็นศุกร์สุดสัปดาห์และมีงานเลี้ยงหลังเลิกงานอีกด้วย ซึ่งเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อขอบคุณพนักงานที่ได้ช่วยกันทำงานจนจบโปรเจค และผมก็ได้มากับเค้าด้วย 555++ 

เมื่อมาถึงร้านครัวปทุม ก็มองดูบรรยากาศรอบ ๆ ร้าน ก็ไปพบเข้ากับดอกชวนชม อมชมพู ในกระถางบริเวณหน้าร้าน สีสันสวยสดใส ดึงดูดใจผมมาก ....อดใจไม่ได้ ผมจึงชัก LAVA Pro 5.0 ออกมาถ่ายภาพเก็บไว้ทันที 

ภาพที่ได้นั้นค่อนข้างสวยงาม...มาก 

สุดท้ายนี้ก็ขอมอบดอกไม้เหล่านี้ให้เพื่อน ๆ นะครับ 
ขอบคุณที่ติดตามครับ

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ไอติม อร่อยเฟ่อ !!? หน้าซอยหมู่บ้าน 200 ปี รังสิต (Ice cream at 200 years RANGSIT)


เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้เข้าไปลองกินไอติมร้านนี้  ตั้งร้านอยู่ข้าง ๆ ร้านทำฟัน  หน้าซอยหมู่บ้าน 200 ปี รังสิต  ปทุมธานี   เป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ซอยแรก ๆ ไม่ไกลมากนัก

เมื่อเดินมาพบร้านนี้  ว่าววว..!! ลูกค้าเต็มร้านเลยล่ะ  บรรยากาศร้านนี้เป็นร้านนั่งกินธรรมดา 

แต่....ความอร่อยอยู่เหนือสิ่งที่เห็น  !!!

จากนั้น  ผมก็สั่งไอติมมาลองกินดู  ถ้วยเล็ก  ราคา 20 บาท  ใส่โน่นนี่นั่น ได้ไม่เกิน 3 อย่าง  ที่เห็นในถ้วยอะครับ  คุณค่าทางอาหารมีมากมาย  นี่คงเป็นสิ่งจูงใจให้หลาย ๆ คนมากินไอติมร้านนี้

เมื่อผมได้กินคำแรก....  อร่อยมากกกก... ครับ   หวานหอม  ฟุ้งฟิ้ง ...  ถั่วแดง  ฟักทอง  และแป๊ะก๊วย  รสชาติอร่อย นุ่ม  ทุกอย่างลงตัวมากครับ

หากใครผ่านมาทางนี้ ลองเข้าไปชิมดูนะครับ  ร้านเปิดประมาณ  15.00 น. จนกว่าของจะหมด  ฝากร้านนี้ไว้ด้วยนะครับ