วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ส้มตำ คือ อาหารสมุนไพร และเป็นอาหารพื้นฐานของคนไทย


ถ้าพูดถึงส้มตำทีไร น้ำลายไหลทุกที  พอพูดถึงปุ๊บ  สมองก็จะลำดับภาพความอร่อยมาให้ทันที  แล้วต่อมน้ำลายก็หลั่งไหลออกมา ซี๊ดดด ซ๊าดดด ....


วิธีลง MATLAB 7 ใน Windows 7 (แก้ไข Error)

เมื่อเราทำการลง MATLAB 7 ใน Windows 7 ไปแล้ว เมื่อเปิดโปรแกรมจะเกิดปัญหา Error ขึ้น นั่นคือการแจ้งเตือนว่า MATLAB 7 ไม่สามารถใช้กับ Windows 7 ได้ !!!   แต่เราสามารถปรับแก้ได้นะครับ ดังนี้

คลิก OK ดังรูปที่ 1

รูปที่ 1
คลิกขวาไอคอน MATLAB 7 ดังรูปที่ 2
รูปที่ 2
คลิกเลือก Properties ดังรูปที่ 3


รูปที่ 3

คลิกเลือก Change setting for all users ดังรูปที่ 4

รูปที่ 4
คลิกเลือก Windows 2000  และ  คลิกเลือก Apply ดังรูปที่ 5 เพื่อให้ MATLAB 7 ทำงานในระบบปฏบิตการที่ต่ำกว่า Windows 7

รูปที่ 5
 แล้วคลิก Apply และ OKดังรูปที่ 6

รูปที่ 6
 เพียงเท่านี้  เราก็สามารถใช้งาน MATLAB 7 ได้ตามต้องการแล้วครับ

รูปที่ 7

หูฟัง ยี่ห้อ Philips สายยาว 2 เมตร ระบบ Surround ซาวน์ ดีมาก


หลังจากที่ได้ซื้อ Computer ยี่ห้อ Lenovo ผมก็จัดหนักโดยการซื้อหูฟัง  หูฟัง ยี่ห้อ Philips ในราคา 490 บาท ขาดตัวไปเลย  เพื่ออนาคต..เราจะได้ไม่ต้องหาใหม่อีก  บรรจุภัณฑ์ที่เห็นดูสวยงามดี  มีคุณภาพ 



เมื่อทำการแกะกล่องออกมา ก็พบว่าขนาดของหูฟังครอบพอดีหู ทำให้เสียงที่ได้ยินมีความลุ่มลึกมากขึ้น เสียงเบสออกดีมากกกก ขอบอก  เสียงกลาง แหลม  ออกมาดีเหมือนกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเราเลือก EQ ในโปรแกรมเพลงด้วยนะครับ สมกับราคาจริง ๆ ขอดี มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม


ว้าวว  ... สายแจ๊คให้มาสองหัว เล็ก - ใหญ่ ทำให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อ  แน่นอนว่า ผมต้องซื้อมาใช้งานด้านดนตรี เพราะผมก็เล่นกีตาร์และอัดเสียงกลองจาก computer ด้วยเช่นกัน  งานนี้เหมาะกับการสร้างชิ้นงานของผมมากมาย 

สำหรับบทความนี้ก็มีเรื่องราวเท่านี้ เดี๋ยวคราวหน้าจะมาพูดถึง Wireless Adapter บ้างดีกว่า เพราะผมื้อมาในวันเดียวกัน อิอิ

ขอบคุณที่ติดตามครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รอบรู้เรื่องวิตามิน เพื่อสุขภาพ



ปัจจัยสี่เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อันได้แก่ การ พักผ่อน การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และจิตใจ ที่ห่างไกลความเครียด ทำให้ผู้คนต่างพยายามสรรหาสารพัดวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแนวทางใหม่ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น การฝึกจิต เพื่อทำจิตใจให้ผ่องใส รวมถึงการรับประทานอาหารเสริมเพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับการบำรุงอย่างครบถ้วน เป็นต้น บ้างก็ว่าการรับประทานอาหารให้ถูกโภชนาการย่อมไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยอาหารเสริมอีกต่อไป แต่สำหรับคนในยุคสมัยเรานี้ มีหรือที่จะรับประทานอาหารกันครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะเหล่าวิตามินต่างๆ ที่มักจะซ่อนตัวอยู่ในผักใบเขียวและพืชอื่นๆ รวมถึงผลไม้ที่มีรูปร่างและรสชาติที่หลากหลายเหลือจะนับ ด้วยเหตุนี้ การรับประทานวิตามินเสริม จึงมักจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งทำให้พวกเราผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้วจริงๆ แต่อย่าเพิ่งรีบร้อนคว้าทุกสิ่งอย่างเอามากินเป็นวิตามินเสริมไปเสียหมด เพราะของอย่างนี้ควรศึกษาให้ดีว่าต้องกินอะไร ยังไงขนาดไหน เนื่องจากการศึกษาวิจัย บางตัวได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า บางครั้งการรับประทานวิตามินเยอะเกินไปก็ใช่จะส่งผลดีต่อร่างกายอย่างที่คิด

วิตามินเอ
วิตามินเอ พบได้มากในผักสีส้มและแดงอย่าง แครอท บีทรูท ผักโขม ฯลฯ รวมถึงน้ำมันตับปลา มีประโยชน์มากกับผิวพรรณในแง่ของการรักษาจุดด่างดำและริ้วรอยแห่งวัย ช่วยบำรุงสายตา กระดูกฟัน และเส้นผม ดูดซึมด้วยไขมัน เป็นวิตามินอีกตัวที่หลายๆ คน มักต้องอาศัยการรับประทานเป็นอาหารเสริม โดยเฉพาะในหมู่คนที่ไม่ค่อยกินผัก แต่หากร่างกายได้รับวิตามินเอมากจนเกินไปก็จะเกิดการสะสม ทำให้ปวดข้อ ปวดกระดูกตาม ตัว คลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหารได้ง่าย ควรกินมากแค่ไหน – ผู้หญิงควรรับประทานประมาณ 4,000 I.U. ต่อวัน / ผู้ชายและผู้หญิงตั้งครรภ์ควรรับประทานประมาณ 5,000 I.U. ต่อวัน / หากต้องการกินเป็นอาหารเสริม ควรรับประทานประมาณ 1,000 I.U. ต่อวัน


วิตามินบีรวม
เนื่องจากมีวิตามินบีมากมายหลายชนิดเกินคณานับตั้งแต่วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5,วิตามินบี 6, วิตามินบี 12 ฯลฯ ซึ่งก็ล้วนแต่ทำงานร่วมกัน และอาหารส่วนใหญ่ที่อุดมไปด้วยวิตามินบีมักเป็นประเภทใกล้เคียงกัน ได้แก่ ขนมปัง ถั่ว อัลมอนด์ เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์ ธัญพืชต่างๆ จมูกข้าวสาลี ถั่วเหลือง เห็ด นม โยเกิร์ต ไข่ไก่ ผักใบเขียว รวมถึงอาหารประเภทหมักดองบางชนิด อย่าง กะปิ เต้าเจี้ย ว น้ำปลา ปลาร้า เป็นต้น วิตามินบีรวมจะช่วยเสริมด้านการทำงานของสมอง ระบบประสาท หัวใจ กล้ามเนื้อ และการย่อยอาหาร หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ดูแลควบคุมความเป็นไปของระบบต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติ โดยเฉพาะกับระบบประสาท และความเครียด ซึ่งถ้าขาดวิตามินบีรวมแล้ว ร่างกายอาจมีอาการชา เป็นตะคริวง่าย ความจำเลอะเลือน มีปัญหาในการมองเห็น อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย โลหิตจาง สำหรับผู้ที่ดื่มจัด สูบบุหรี่จัด และชอบกินหวานจัดรวมถึงผู้ที่ต้องกินยาลดกรดบ่อยๆ และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ร่างกายอาจจะเกิดภาวะขาดวิตามินบีได้ง่าย จึงควรดื่มน้ำเยอะๆ เพราะเป็นวิตามินที่ดูดซึมด้วยน้ำค่ะ ควรกินมากแค่ไหน – ตามปกติควรรับประทานประมาณ 300-400 มิลลิกรัม แต่หากต้องการรับประทานเพื่อรักษาโรคหรืออาการบางอย่างอาจต้องรับประทานประมาณ 3,000-5,000 มิลลิกรัม

วิตามินซี
เป็นวิตามินที่ดูดซึมด้วยน้ำ และเป็นวิตามินยอดฮิต เพราะนอกจากจะช่วยป้องกัน โรคหวัดซึ่งเป็นกันได้ทั้งปีแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส เนื่องจากช่วยสร้างคอลลาเจน สมานแผลสด และรักษาโรคลักปิดลักเปิด พบได้มากในผลไม้จำพวก ส้ม มะนาว ฝรั่ง มะขาม และมะเขือเทศ ฯลฯ ผู้ที่ขาดวิตามินซี มักมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดตาม ข้อและกระดูก เลือดออกตามไรฟัน แต่ถ้าได้รับมากเกินไปจะทำให้ร่างกายสะสมธาตุเหล็ก ตามข้อกระดูกต่างๆ และมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร เพราะ วิตามินซีมีค่าเป็นกรดนั่นเอง ควรกินมากแค่ไหน – ตามปกติแล้วควรรับประทานวิตามินซีประมาณ 500 มิลลิกรัมต่อวันเป็นอย่างน้อย และสามารถกินได้ถึง 6,000 มิลลิกรัมในกรณีที่กินเพื่อรักษาโรคหรืออาการต่างๆ

วิตามินดี
อาหารที่อุดมด้วยวิตามินดีก็คือผลิตภัณฑ์นม เนย ไขมัน น้ำมันตับปลา ปลาทู ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และไข่แดง พบได้มากในแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและยามเย็น มี คุณสมบัติช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันแข็งแรง อีกทั้งยังมีส่วนในการดึงคาร์โบไฮเดรตมาใช้ ดูดซึมได้ด้วยไขมัน แต่ถ้าได้รับมากเกินขนาดก็จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำ มี ปริมาณแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปัสสาวะสูง มีหินปูนเกาะในร่างกาย แต่การศึกษาวิจัยพบว่าการรับประทานวิตามินดีน้อยเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุ ของสายตาสั้นได้ ควรกินมากแค่ไหน – ผู้ชายและผู้หญิงควรรับประทานประมาณ 200-300 I.U. ต่อวัน / ผู้หญิงมีครรภ์ควรรับประทานประมาณ 600 I.U. ต่อวัน

วิตามินอี
สาวๆ ที่อยากสวยนานๆ มักจะพึ่งพาวิตามินอีเป็นประจำด้วยคุณสมบัติที่ช่วยต่อต้านสาร อนุมูลอิสระ อันนำมาซึ่งความแก่ชราก่อนเวลาอันสมควร ช่วยบำรุงเลือดและเสริมประสิทธิ- ภาพการทำงานของระบบเลือดช่วยบำรุงให้ผิวพรรณอิ่มเอิบ อ่อนเยาว์ รักษาแผลได้ดี รวมถึงยังช่วยบำรุงระบบสืบพันธุ์และกล้ามเนื้ออีกด้วย เป็นวิตามินอีกตัวที่ดูดซึมในไขมัน หากร่างกายได้รับวิตามินอีไม่เพียงพอก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง หลอดเลือดจะแข็งตัวขึ้น เลือดจับตัวเป็นลิ่มเป็นก้อน ระบบประสาทมีปัญหา โลหิตจาง แต่ในทางตรง ข้าม หากได้รับวิตามินอีมากเกินไปก็อาจเกิดอาการตาพร่ามัว อ่อนเพลีย ท้องร่วง กล้ามเนื้ออ่อนล้า ปวดศีรษะ อาหารที่พบวิตามินอีได้มากคือน้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน จมูกข้าวสาลี เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลอโวคาโด ผักใบเขียว ฯลฯ ควรกินมากแค่ไหน –ตามปกติแล้วควรจะรับประทานประมาณ 10-15 I.U. หรือประมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน นั่นหมายถึงจมูกข้าวสาลี 1 ช้อนโต๊ะก็เพียงพอแล้ว แต่ก็ไม่ควร รับประทานเกินวันละ450 มิลลิกรัม

คิดบวกสร้างสุขสร้างเงิน

พลังคิดบวก นอกจากจะช่วยให้คนประสบความสำเร็จแล้ว ยังช่วยให้คนคิดบวกมีความสุขด้วย และสิ่งที่ตามมาคือสุขภาพกายและใจแข็งแรง

"You are what you think" คิดอย่างไร? ได้อย่างนั้นเคยสังเกตไหมคนสองคนทำทุกอย่างเหมือนกันทุกประการ ทำไมคนหนึ่งสำเร็จ อีกคนไม่สำเร็จ ทำอะไร? ก็ไม่ได้ดี ทำการค้าก็ขาดทุนเป็นหนี้เป็นสิน ทำงานเป็นลูกจ้างก็ไม่ก้าวหน้า ไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย อยู่ที่ "วิธีคิด" คิดบวกชีวิตบวก คิดลบชีวิตลบ ภาษาพุทธศาสนาเรียกว่า "จิต/ใจ" สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจ อยู่ที่วิธีคิดจะคิดให้ตัวเองทุกข์หรือจะคิดให้สุข เลือกได้ แต่คนเราส่วนใหญ่ชอบเลือกที่จะคิดให้ตัวเองทุกข์ เมื่อทุกข์จิตใจจะเศร้าหมองจะเริ่มท้อ เมื่อท้อทำอะไรก็ไม่สำเร็จเพราะไม่มีพลัง จิตใจห่อเหี่ยว แช่งตัวเองทุกวัน "ทำไม่ได้หรอก ไม่มีทางสำเร็จ ปัญหาเยอะขนาดนี้จะสำเร็จได้อย่างไรไม่มีทาง ฯลฯ"

ทุกวันนี้ความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจมีมากมาย สารพัดภัยรอบตัวเราทั้งภัยจากธรรมชาติ ภัยที่เกิดจากมนุษย์ด้วยกัน สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราล้วนทำให้เราเกิดทุกข์ได้อย่างง่ายดาย มาช่วยกันดูแลตัวเองด้วยการคิดบวกจะดีกว่าไม่ว่าอะไรจะมากระทบขอให้คิดบวกไว้ก่อน มีงานวิจัยของสหรัฐอเมริกาเรื่องวิธีคิดที่มีผลต่อเซลล์สมอง เขาบอกว่าทุกครั้งที่คิดบวกเซลล์สมองด้านดีจะแตกกิ่งก้านสาขาออกมามากมาย แต่เมื่อไรคิดลบเซลล์สมองอีกด้านก็จะแตกกิ่งก้านออกมาเหมือนกันแต่จะรวมกันคล้ายพังผืดยึดติดกันเป็นแผ่นทำให้เลือดที่จะไปเลี้ยงสมองไหลเวียนไม่สะดวกทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมา


ไม่ว่าผลการวิจัยนี้จะจริงหรือไม่ก็ตามสิ่งที่เราสามารถพิสูจน์ได้คือ คิดบวกแล้วมีความสุขแน่ๆคิดลบก็ทุกข์แน่ๆ เช่นกัน เมื่อรู้แบบนี้แล้วเรายังจะคิดลบกันอยู่ทำไม มาดูกันดีกว่าคนรวยเขามีวิธีคิดอย่างไร?

  • คนรวยเชื่อในทฤษฎี Can Do ทุกอย่างทำได้และลงมือทำอย่างจริงจัง คนจนคิดว่าฟ้าลิขิตทำยังไงก็ไม่ได้ถ้าดวงไม่มี
  • คนรวยมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการอะไร และคิดหาวิธีไปถึงเป้าหมายโดยไม่ละความพยายามด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ คนจนส่วนใหญ่ไม่มีเป้าหมายหรือแม้มีเป้าหมายก็ไปไม่ถึงเพราะความคิดลบสกัดกั้น
  • คนรวยเห็นแต่โอกาสไม่คิดถึงปัญหาแม้มีปัญหาก็แก้ไขได้ คนจนเห็นแต่อุปสรรค จ้องมองหาแต่ปัญหาที่ทำให้ท้อแท้ไม่สู้ 
  • คนรวยคิดใหญ่ อย่างมีพลัง คิดได้ต้องได้ คิดมีต้องมีใช้พลังความคิดเป็นตัวขับเคลื่อน คนจนคิดเล็ก ได้ก็ดีไม่ได้ก็ช่างมัน
  • คนรวยใช้เงินทำงานด้วยการบริหารจัดการให้เงินงอกเงย คนจนทำงานเพื่อให้ได้เงินมาจับจ่ายใช้สอย อยู่กับลัทธิเอาอย่าง
  • คนรวยคบหาสมาคมกับคนที่ประสบความสำเร็จและคิดบวก คนจนคิดลบคบหากับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ
  • คนรวยทำสิ่งใดคาดหวังต่อความสำเร็จ เชื่อว่าสามารถทำได้มีความมั่นใจ คนจนทำสิ่งใดคาดหวังต่อความล้มเหลว ขาดความเชื่อมั่นคิดถึงแต่ความไม่สำเร็จ


พลังคิดบวกนอกจากจะช่วยให้คนประสบความสำเร็จแล้วยังช่วยให้คนคิดบวกมีความสุขด้วยและสิ่งที่ตามมาคือสุขภาพกาย-ใจแข็งแรง ผู้คนรอบข้างมีความสุข ตรงกันข้ามกับคนคิดลบนอกจากไม่ประสบความสำเร็จแล้วยังเต็มไปด้วยความทุกข์ หวาดระแวง เครียด สิ่งที่ตามมา คือ โรคร้ายแรง คนใกล้ชิดมีแต่ความทุกข์ เพียงคิดบวกทุกๆวัน ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป "คิดบวกสร้างสุขสร้างเงิน"


วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โครงสร้างการพัฒนาเมืองในอนาคต "บุรีรัมย์คู่กับสุรินทร์" เมืองคู่แฝด !!


เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประเทศจะอยู่แบบไร้พรมแดน มีการพัฒนาเร็วมาก และจ.สุรินทร์กับบุรีรัมย์ จะจับมือเป็นเมืองฝาแฝด เพราะอยู่ใกล้กัน อีกหน่อยในปี พ.ศ.2557 ถนนสายสุรินทร์-บุรีรัมย์ ระยะทาง 50 กิโลเมตร จะเป็นถนนขนาด 4 แลน สร้างเสร็จสมบูรณ์ และเชื่อมต่อกับสนามแข่งขันรถจักรยานยนต์ สนามระดับโลก ที่ จ.บุรีรัมย์ โดยจะสามารถสร้างเสร็จได้ในปี 2557 ทำให้ จ.สุรินทร์ได้รับประโยชน์ จากที่พักโรงแรมต่างๆ มีนักท่องเที่ยว และผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เข้ามาพักในจ.สุรินทร์เป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันเมื่อมีการพัฒนา ถนนมอเตอร์เวย์ จากกรุงเทพฯมาถึงนครราชสีมา หรือรถไฟความเร็วสูงมาถึงจ.นครราชสีมา เพียง 1 ชั่วโมง จากนั้นจะทำให้การเดินทางมายังจังหวัดบุรีรัมย์ และสุรินทร์สะดวกมากขึ้น และใช้เวลาเพียง 1 หรือ 2 ชั่วโมงถึงบุรีรัมย์แล้ว นักท่องเที่ยวจะมีนักท่องเที่ยวใน 2 จังหวัดนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน ประชาชน ร้านค้าต่างๆ จะมีรายได้จากการขายสินค้าที่ผลิตได้ในท้องถิ่นมากขึ้นด้วย.

การรักษาเบาหวานด้วยธรรมชาติบำบัด


โดย : นายแพทย์ทีปทัศน์ ชุณหสวัสดิกุล
สำหรับเนื้อหาที่นำมาบรรยายในหัวข้อนี้เป็นประสบการณ์ที่ศูนย์ธรรมชาติบำบัด  ได้ใช้ในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานมาระยะเวลาหนึ่ง เป็นการดูแลรักษาโดยใช้ธรรมชาติบำบัด ก่อนอื่นขอปูพื้นสักนิดเรื่องเบาหวาน เป็นข้อมูลเชิงการแพทย์

เบาหวานคืออะไร

เบาหวาน ภาษาทางการแพทย์เรียกว่า “Diabetes Melitus” เป็นโรคที่มีความผิดปกติของการนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน (Glucose Utilization) ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถแบ่งแยกย่อยได้หลายชนิด ทางการแพทย์มี 5-6 ชนิด แต่ที่รู้จักกันมี 2 ชนิด คือ
  • 1. DM type I ซึ่งพบน้อยประมาณ 10%
  • 2. DM type II พบประมาณ 90%

ความแตกต่างระหว่างเบาหวาน 2 ชนิด 

DM type I เบาหวานชนิดที่หนึ่ง เป็นความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่า อินซูลิน (Insulin) คือไม่สามารถสร้างได้ เนื่องจากเซลล์ที่อยู่ในตับอ่อนหรือ Beta cell ถูกทำลาย ฉะนั้นการรักษาในทางการแพทย์ตะวันตก เนื่องจากไม่มีอินซูลิน จึงต้องใช้อินซูลินฉีดเข้าไปเพื่อทดแทน


DM type II เบาหวานชนิดที่สอง พบมากกว่าและปัญหาทางด้านสาธารณสุข เนื่องจากมีความผิดปกติทางร่างกายที่ทำให้มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน พูดง่ายๆ ก็คือ ร่างกายยังผลิตอินซูลินได้บ้าง แต่ว่าอินซูลินที่ผลิตออกมานั้นร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อฤทธิ์ของมันได้ ฉะนั้นการรักษาเบาหวานประเภทนี้ใช้ได้ 2 แบบ คือ
  • 1. ใช้ในการฉีดอินซูลินเข้าไปทดแทน ในกรณีที่อินซูลินแทบจะทำงานไม่ได้
  • 2. ใช้การกินยาเข้าไป อย่างที่คุณหมอเทวัญฯ ได้เกริ่นนำไปแล้ว การกินยามีหลายชนิด มีชนิดหนึ่งไปกระตุ้นให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ลดภาวะการดื้อต่ออินซูลิน หรือเพิ่มการหลั่งอินซูลินจากเบต้าเซลล์

วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า AJ Cordless Automatic Kettle (รีวิว)


วันนี้ผมเกิดอารมณ์เปลี่ยว  เดินไปห้าง Big C คนเดียว  เข้าร้านโน่น นี่ นั่น  จนเหนื่อย  ก็เลยได้สินค้ามาตัวหนึ่ง นั่นก็คือ กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า AJ Cordless Automatic Kettle  


ดูจากภายนอกแล้วก็เหมือนไม่มีอะไรเท่าไร !!!??? พอถอดไส้ ถอดพุง ออกมาดูก็พบว่า  สายไฟไม่มีดิน (Ground)  แน่นอนว่าความปลอดภัยในด้านระบบไฟฟ้าไม่มี  แต่การใช้งานยังถือว่ามีความปลอดภัยในระดับดี  โดยดูจากวัสดุที่ใช้ เป็นพลาสติกทั้งหมด  ซึ่งเป็นฉนวนทางไฟฟ้าได้ระดับหนึ่ง เพียงพอต่อการใช้งาน  และ ฐานวางกาต้มน้ำไฟฟ้าดูธรรมดา ๆ โดยมีขั้วต่ออยู่สามช่อง


ถัดมาเป็นใบรับรองคุณภาพ QC ที่บ่งบอกว่าผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว  ในส่วนของการใช้งานให้ใช้ที่แรงดันไฟฟ้า 220Vac  ใช้กำลังไฟฟ้า 1000W  ดังนั้นจะกินกระแสไฟฟ้า I = 1000W/220V = 4.545A ซึ่งกำลังไฟฟ้าในส่วนนี้จะกินไฟน้อยกว่ายี่ห้อ OTTO ประมาณ 800W (เทียบในราคาเดียวกันและจำนวนลิตรเท่ากัน)  



เมื่อทำการทดสอบโดยเทน้ำใส่เข้าไปประมาณครึ่งกาต้มน้ำ  แล้วเสียบไฟใช้งาน พบว่า  เพียงชั่วครู่น้ำก็เดือดพอเหมาะสำหรับชงกาาแฟได้แล้ว  (ประมาณ 2-3 นาที)


สุดท้ายนี้   ผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ผู้อ่านทุกคนนะครับ

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สรรพคุณของหน่อไม้


ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยย่อยอาหาร เป็นสรรพคุณที่เห็นผลมาก เพราะหน่อไม้เป็นอาหารที่ให้เส้นใยสูงจึงช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เมื่อหน่อไม้ผ่านการย่อยร่างกายจะดูดซึมสารอหารเข้าสู่กระแสเลือด 

ส่วนกากอาหารที่เหลือหรือสารพิษต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลงหรือโลหะหนักจะไปรวมกันที่ลำไส้ใหญ่ แต่ถ้ามีกากใยอาหารมากๆ กากใยอาหารเหล่านี้จะช่วยดูดน้ำและเพิ่มปริมาณ ทำให้กากอาหารมีน้ำหนักมากจะเคลื่อนออกสู่โลกภายนอกได้เร็ว กากใยอาหารจึงช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่

แก้กระหาย ขับปัสสาวะ ละลายเสมหะ แก้ไอ บำรุงกำลังแก้อาการร้อนต่างๆ ได้ดี เพราะมีฤทธิ์เย็นเช่นเดียวกับเห็ด

ขับพิษใต้ผิวหนัง ขับผื่นหัดรวมถึงผื่นชนิดอื่นๆ เพียงดื่มน้ำแกงที่ได้จากการต้มหน่อไม้ร่วมกับปลาตะเพียน   แก้โรคบิดเรื้อรังได้

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

The Art in Toilet (ความสดชื่นในห้องปลดทุกข์)


ศิลปะในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ล้วนเกิดมาจากจินตนาการและความคิดที่จะทำให้สิ่ง ๆ หนึ่งให้ "ดูดี" แต่กว่าจะคิดออกจนทำให้เกิดมูลค่าทางความคิดนั้น  ก็แสนจะยากแยนในช่วงแรก ๆ เสมอ  เมื่อหลังจากนั้นจะกลายเป็นความ Classic ในการสร้างสรรค์สิ่งอื่นต่อไป

ห้องน้ำก็ถือว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่ต้องใส่ใจ  นอกจากเราจะปลดทุกข์แล้ว เราต้องสร้างบรรยากาศให้ดูดี  มีความสุข ก่อนจากสถานที่แห่งนี้ไป  


ต้นไม้ที่นิยมก็คงไม่พ้น "พลูด่าง"  เพราะว่าเป็นไม้ประดับที่แข็งแรง อดทน  และเป็นไม้เลื้อยสวยงาม  แต่ถ้าเลื้อยมากไป จนเต็มห้องน้ำ  ผมคงไม่อยู่แน่ ๆ ผมขอเผ่นก่อนละกัน 555+


หากเราเพิ่มเติมแสงไฟสักนิดนึง ก็คงดูดีไม่น้อย  ทำให้ความรู้สึกอบอุ่น  สุนทรีย์  ไปอีกแบบนะครับ  อ้ออ... เรื่องกลิ่นก็สำคัญเช่นกันครับ  ในห้องน้ำตึกนี้จะมีเครื่องปล่อยน้ำหอมอัตโนมัติดด้วยละครับ ทำให้ลดการเหม็นอับได้มากทีเดียว


เป็นอย่างไรกันบ้างละครับ  เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์วันนี้  ทำให้เพื่อน ๆ ได้รับบรรยากาศที่สดชื่นและนำไปปรับใช้ในสถานที่ ๆ เราอยู่ประจำได้มากเลยนะครับ  เช่น บ้าน  หอพัก  ที่ทำงาน เป็นต้น

ขอบคุณที่ติดตามครับ  ^_^

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การวิเคราะห์งานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำอย่างไร?


เมื่อมีการมอบหมายงานเพิ่มหรือมีการโยกย้ายงานจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานที่ได้รับเงินเพิ่มมักจะขอคนเพิ่มเสมอแต่...หน่วยงานที่เอางานออกไปมักจะไม่ได้ลดคนตามไปด้วยบางครั้งงานๆเดียวถูกย้ายไป 3-4 หน่วยงาน อัตรากำลังคนรวมขององค์กรเพิ่มขึ้น 3-4 คน ปริมาณงานหรือความรับผิดชอบโดยรวมขององค์กรยังมีอยู่เท่าเดิมปัญหาการเพิ่มกำลังคนจะค่อยๆ ก่อตัวสะสมมากขึ้นไปเรื่อยๆพอถึงระดับหนึ่งผู้บริหารรู้สึกว่าจำนวนพนักงานมากเกินไปแล้วแต่บอกไม่ได้หรอกว่ามากตรงไหนมากเพราะอะไร ผู้บริหารก็มักจะมอบหมายให้ฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ไปศึกษาดูว่าทำไมหน่วยงานนั้นจึงใช้คนมากและให้ไปศึกษาดูว่าจริงๆแล้วหน่วยงานนั้นๆควรจะใช้คนเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมปัญหาที่ตามมาของฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ คือ ไม่รู้ว่าจะเข้าไปวิเคราะห์ได้อย่างไร จะเริ่มต้นตรงไหนจะวิเคราะห์อะไรบ้าง ถ้าองค์กรขาดการวิเคราะห์กำลังคนที่มีประสิทธิภาพแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่จำนวนกำลังคนจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่เหมาะสมกับปริมาณงานแล้วยังมีปัญหาต่างๆ ติดตามมาอีกมากมาย เช่น ขาดประสิทธิภาพในการจัดโครงสร้างองค์กร ต้นทุนการบริหารจัดการสูงเกินความเป็นจริงเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นสูง ใช้คนผิดประเภท ใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า ดังนั้นเพื่อให้องค์กรต่างๆ มีแนวทางในการวิเคราะห์งานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอนำเสนอวิธีการวิเคราะห์งาน 10 ขั้นตอน ดังนี้

ระบุกิจกรรมหลัก
ถ้าต้องการวิเคราะห์ของหน่วยงานหรือตำแหน่งงานใด ขอแนะนำว่าควรจะเริ่มจากการศึกษาดูว่างานหลัก หรือกิจกรรมหลักของหน่วยงานนั้นๆมีอะไรบ้างอะไรคืองานหลักงานหลักนั้นๆมีหน้าที่หรือกิจกรรมหลักอะไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างงานหลักกับกิจกรรมหลักอย่างชัดเจนและครอบคลุม เช่น งานจัดซื้อวัตถุดิบมีกิจกรรมย่อยๆคือ รับคำขอซื้อจากหน่วยงานผลิต วางแผนการจัดซื้อ จัดทำใบสั่งซื้อ การตรวจสอบใบสั่งซื้อ อนุมัติใบขอสั่งซื้อ ฯลฯ


วิเคราะห์ระดับของงาน
ให้นำเอากิจกรรมหลักในแต่ละข้อมาวิเคราะห์ว่ากิจกรรมในเรื่องนั้นๆเป็นงานระดับไหนระดับของงานแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ งานระดับจัดการงานควบคุมงาน/บังคับบัญชาและงานระดับปฏิบัติการ เช่น การจัดทำใบสั่งซื้อถือเป็นงานปฏิบัติการงานตรวจสอบใบสั่งซื้อถือเป็นงานควบคุมบังคับบัญชา และงานอนุมัติใบขอสั่งซื้อถือเป็นงานระดับจัดการ

วิเคราะห์ชั่วโมงงานและปริมาณงาน
ให้วิเคราะห์ว่ากิจกรรมนั้นๆใช้เวลาในการทำงานกี่ชั่วโมงกี่นาทีต่อวันหรือต่อเดือน เช่น ออกใบสั่งซื้อ 300 ใบต่อเดือน ใช้เวลาในการออกใบละ 5 นาที เวลารวมต่อเดือนคือ 300 x 5 = 1,500 นาที หรือเท่ากับ 25 ชั่วโมงต่อเดือน

วิเคราะห์ความถี่ในการปฏิบัติงาน
วิเคราะห์ต่อไปว่ากิจกรรมนั้นต้องทำถี่บ่อยแค่ไหน เช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เดือนละ 2-3 ครั้งสามเดือนครั้ง หรือปีละครั้ง

วิเคราะห์การใช้ทรัพยากร
วิเคราะห์ว่ากิจกรรมนั้นต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง(ที่ไม่ใช่คน) เช่น ต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์อะไรบ้างใช้มากน้อยเพียงใด ใช้บ่อยแค่ไหน เพื่อจะได้นำไปใช้ในการวิเคราะห์เรื่องการจัดสรรทรัพยากรต่อไป

วิเคราะห์ความเสี่ยงของงานหรือกิจกรรม
ขอให้วิเคราะห์ดูว่ากิจกรรมนั้นๆมีจุดที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษอะไรบ้างทั้งนี้เพื่อจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการกำหนดแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

วิเคราะห์ว่าควรจะทำเองหรือให้หน่วยงานข้างนอกทำ
ขั้นตอนนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการบริหารงานในยุคปัจจุบันและอนาคต เพราะองค์กรจะได้เตรียมตัวไว้ก่อนว่างานใดบ้างที่สามารถใช้บริการจากภายนอกทำได้ซึ่งต้องพิจารณาจากปัจจัยดังนี้ มีบริการภายนอกรองรับหรือไม่ ต้นทุนคุ้มหรือไม่เมื่อเทียบกับที่องค์กรดำเนินการเอง มีผลกระทบต่อความลับทางธุรกิจหรือไม่

ตรวจสอบผลการวิเคราะห์
เมื่อวิเคราะห์มาทั้ง 7 ขั้นตอนแล้วให้ลองตรวจสอบอีกครั้งก่อนที่จะนำไปใช้ในการนำเสนอทางเลือกโดยให้วิเคราะห์ใน 3 ประเด็นคือ 
  • 1) งานนั้น(รวมทุกกิจกรรม)ใช้ทรัพยากรเหมาะสมหรือไม่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังคนเครื่องมืออุปกรณ์ 
  • 2) งานนั้นมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากน้อยเพียงใดและ 
  • 3) งานนั้นมีความเหมาะสมในหลักของการตรวจสอบภายในหรือไม่ เช่น มีการขอเอง ดำเนินการ ตรวจสอบเองหรือไม่

กำหนดออกหรือทางเลือก
เมื่อทราบผลการวิเคราะห์งานนั้นๆแล้วให้ลองนำเสนอแนวทางในการจัดงานจัดตำแหน่งจัดกระบวนการในการทำงานที่คิดว่าควรจะเป็นและควรจะกำหนดแนวทางไว้หลายๆแนวทางและควรวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือกไว้เพื่อจะได้นำไปเปรียบเทียบว่าแนวทางใดเหมาะสมมากที่สุด เช่น ถ้ากิจกรรมนี้อยู่ด้วยกันก็สามารถใช้คอมพิวเตอร เครื่องเดียวกันได้ หรือถ้าจัดคอมพิวเตอร์ 2-3 เครื่องมาเป็นส่วนกลางทุกคนสามารถใช้ด้วยกันได้จะเกิดประสิทธิภาพมากกว่า

นำเสนอผู้บริหารระดับสูง
ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำผลการวิเคราะห์งาน พร้อมทั้งข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางที่ควรจะเป็น เพื่อให้ผู้บริหารพิจารณาให้ความเห็นว่าควรจะดำเนินการหรือไม่เมื่อไหร่และจะดำเนินการอย่างไร จึงจะไม่กระทบต่อความรู้สึกและการทำงาน

ถ้าต้องการวิเคราะห์ของหน่วยงานหรือตำแหน่งงานใด ขอแนะนำว่าควรจะเริ่มจากการศึกษาดูว่างานหลักหรือกิจกรรมหลักของหน่วยงานนั้นๆมีอะไรบ้าง อะไรคืองานหลักงานหลักนั้นๆมีหน้าที่หรือกิจกรรมหลักอะไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างงานหลักกับกิจกรรมหลักอย่างชัดเจนและครอบคลุม เช่น งานจัดซื้อวัตถุดิบ มีกิจกรรมย่อยๆคือ รับคำขอซื้อจากหน่วยงานผลิต วางแผนการจัดซื้อ จัดทำใบสั่งซื้อ การตรวจสอบใบสั่งซื้อ อนุมัติใบขอสั่งซื้อ ฯลฯ ให้นำเอากิจกรรมหลักในแต่ละข้อมาวิเคราะห์ว่ากิจกรรมในเรื่องนั้นๆเป็นงานระดับไหน ระดับของงานแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ งานระดับจัดการ งาควบคุมงาน/บังคับบัญชา และงานระดับปฏิบัติการ เช่น การจัดทำใบสั่งซื้อถือเป็นงานปฏิบัติการ งานตรวจสอบใบสั่งซื้อถือเป็นงานควบคุมบังคับบัญชา และงานอนุมัติใบขอสั่งซื้อถือเป็นงานระดับจัดการให้วิเคราะห์ว่ากิจกรรมนั้นๆใช้เวลาในการทำงานกี่ชั่วโมงกี่นาทีต่อวันหรือต่อเดือน เช่น ออกใบสั่งซื้อ 300 ใบต่อเดือน ใช้เวลาในการออกใบละ 5 นาที เวลารวมต่อเดือนคือ 300x 5 = 1,500 นาที หรือเท่ากับ 25 ชั่วโมงต่อเดือน วิเคราะห์ต่อไปว่ากิจกรรมนั้นต้องทำถี่บ่อยแค่ไหน เช่น ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เดือนละ 2-3 ครั้ง สามเดือนครั้ง หรือปีละครั้ง วิเคราะห์ว่ากิจกรรมนั้นต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง(ที่ไม่ใช่คน) เช่น ต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์อะไรบ้าง ใช้มากน้อยเพียงใด ใช้บ่อยแค่ไหน เพื่อจะได้นำไปใช้ในการวิเคราะห์เรื่องการจัดสรรทรัพยากรต่อไปขอให้วิเคราะห์ดูว่ากิจกรรมนั้นๆมีจุดที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษอะไรบ้าง ทั้งนี้ เพื่อจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการกำหนดแนวทางในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ขั้นตอนนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการบริหารงานในยุคปัจจุบันและอนาคต เพราะองค์กรจะได้เตรียมตัวไว้ก่อนว่างานใดบ้างที่สามารถใช้บริการจากภายนอกทำได้ซึ่งต้องพิจารณาจากปัจจัยดังนี้ มีบริการภายนอกรองรับหรือไม่ ต้นทุนคุ้มหรือไม่เมื่อเทียบกับที่องค์กรดำเนินการเอง มีผลกระทบต่อความลับทางธุรกิจหรือไม่  เมื่อวิเคราะห์มาทั้ง 7 ขั้นตอนแล้วให้ลองตรวจสอบอีกครั้งก่อนที่จะนำไปใช้ในการนำเสนอทางเลือกโดยให้วิเคราะห์ใน 3 ประเด็น คือ 
  • 1) งานนั้น(รวมทุกกิจกรรม)ใช้ทรัพยากรเหมาะสมหรือไม่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังคน เครื่องมืออุปกรณ์ 
  • 2) งานนั้นมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากน้อยเพียงใด 
  • 3) งานนั้นมีความเหมาะสมในหลักของการตรวจสอบภายในหรือไม่ เช่น มีการขอเองดำเนินการตรวจสอบเองหรือไม่

เมื่อทราบผลการวิเคราะห์งานนั้นๆแล้วให้ลองนำเสนอแนวทางในการจัดงาน จัดตำแหน่ง จัดกระบวนการในการทำงานที่คิดว่าควรจะเป็น และควรจะกำหนดแนวทางไว้หลายๆแนวทาง และควรวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือกไว้ เพื่อจะได้นำไปเปรียบเทียบว่าแนวทางใดเหมาะสมมากที่สุด เช่น ถ้ากิจกรรมนี้อยู่ด้วยกันก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันได้ หรือถ้าจัดคอมพิวเตอร์ 2-3 เครื่อง มาเป็นส่วนกลางทุกคนสามารถใช้ด้วยกันได้จะเกิดประสิทธิภาพมากกว่า ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำผลการวิเคราะห์งานพร้อมทั้งข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางที่ควรจะเป็นเพื่อให้ผู้บริหารพิจารณาให้ความเห็นว่าควรจะดำเนินการหรือไม่ เมื่อไหร่ และจะดำเนินการอย่างไรจึงจะไม่กระทบต่อความรู้สึกและการทำงาน

จากการวิเคราะห์งานทั้ง 10 ขั้นตอนที่กล่าวมานี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์กรใดที่กำลังประสบปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังคนเรื่องประสิทธิภาพของงานเรื่องความเสี่ยงหรือล่อแหลมต่อปัญหาต่างๆคงจะสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนะครับ

ที่มา
http://th.jobsdb.com/TH/TH/V6HTML/Employer/0509.htm

มหาลัย มอนสเตอร์ (Monster University) ดูมาแระสนุกมาก ๆ เลย




หากมีลูก ๆ ไปดูด้วยก็คงจะดีไม่น้อย เพราะว่าหนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็กจริง  ๆ  แต่ที่ผมไปดูครั้งนี้  ไม่ได้ระลึกตอนเป็นเด็ก  แต่ไปดูกับว่าที่แม่ของลูกต่างหาก อิอิ... จึงทำให้เราคิดไปอนาคตเลยก็ว่าได้  

ถึงหนังเรื่องนี้จะเหมาะกับเด็กก็ตาม  แต่ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็ไปดูกันได้  แถมเ็ป็นเรื่องเบาสมอง คลายเครียดได้อีกด้วย อิอิ ... 


สำหรับหนังเรื่องนี้  ให้แง่คิดว่า แต่ละคนย่อมมีบทบาทที่แตกต่างกัน  มีความสามารถแตกต่างกัน  และใช้จุด ๆ นั้นที่แข็งแกร่งมาร่วมกันสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน ก็จะเกิดผลสำเร็จได้โดยเร็ว

เอาเป็นว่าเพื่อน ๆ  พี่น้อง ก็พากันไปดูนะครับ ว่าเรื่องราวจะสนุกขนาดไหน  รับรองเลยว่าจะพากัน อิน ไปกับเนื้อเรื่องแน่ ๆ อ้อ...อย่าลืมพาลูกหลานไปด้วยนะครับ  เพื่อความอบอุ่นของครอบครัว

ราตรีสวัสดิ์....

วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อัพเกรด AIS 3G 2100 ทำอย่างไร ??


Q & A สำหรับผู้ใช้งาน AIS 3G 2100

การสมัครอัพเกรดAIS 3G2100
1 : สมัครอัพเกรด AIS 3G 2100 ทำอย่างไร ??
A: ง่ายและสะดวกสุด ๆ ค่ะ เพียงตรวจสอบ SIM และเครืองว่ารองรับบริการหรือไม่ได้ที่ *570# โทรออก สำหรับ SIM *571# โทรออก ตรวจสอบแล้วหากเครื่องและซิมรองรับบริการสามารถกด*988*เลขบัตรประชาชน#โทรออก(ฟรี)ค่ะ
2 : พื้นที่การใช้งาน ตรวจสอบได้จากที่ไหน
A: สามารถตรวจสอบได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.ais.co.th/3g/th/coverage-checker.aspx#tips
3: จะทราบได้อย่างไรว่าหมายเลขได้รับการอัพเกรดAIS 3G 2100 แล้วหรือยัง
A: ก่อนระบบจะทำการอัพเกรด AIS 3G 2100 จะมี SMS แจ้งขั้นตอนและวันเวลาที่ทำการอัพเกรดอีกครั้งค่ะ
4: iPad กดสมัครอัพเกรด AIS 3G 2100 อย่างไร
A: สามารถสมัครผ่านeService ได้เลยค่ะ ไปที่ http://www.ais.co.th/mobileinternetเลือก icon eServiceเมื่อสมัครเสร็จแล้วยืนยันการทำรายการให้ทราบผ่านทาง SMS หรือ Email ค่ะ
5: ลูกค้านิติบุคคลจะอัพเกรด AIS 3G 2100 อย่างไร ( 1-2 เบอร์ )
A: กด *988*เลขที่บัตรประชาชน# กดโทรออก เพื่ออัพเกรด AIS3G 2100 ได้ประมาณเดือนมิถุนายน ซึ่งหากเปิดให้อัพเกรดแล้วบริษัทจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบทางจดหมาย หรือ SMS อีกครั้งค่ะ
6: ลูกค้านิติบุคคลหรือองค์กร จะอัพเกรด AIS 3G 2100 อย่างไร ( ที่มีเบอร์มากกว่า 1-2 เบอร์ )
A: เนื่องจากหมายเลขจดทะเบียนในนามนิติบุคคลSME จะต้องมีการจัดเตรียมเอกสารโดยผู้มีอำนาจลงนามในเอกสารเพื่อขอสมัครอัพเกรดเครือข่ายเป็น AIS 3G 2100 หากมีการเปิดบริการในพื้นที่ของคุณจะมีการอัพเดทให้ทราบต่อไปค่ะ
7: สมัครไปแล้ว เมื่อไหร่จะได้อัพเกรดคะ
A: สำหรับทุกท่านที่กดสมัครอัพเกรดมาแล้ว หากอยู่ในพื้นที่ 3G 2100 ซิมพร้อม และเครื่องรองรับบริการ ขอให้รอ SMS แจ้งก่อนวันทำการอัพเกรดเป็น AIS 3G 2100 อีกครั้งนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

การตั้งค่าใช้งาน

1. เพิ่งอัพเกรดมาเริ่มใช้งานต้องทำอย่างไรสัญญาณไม่ขึ้น AIS 3G ขึ้นแต่ No Service
A: เริ่มต้นการใช้งาน ตั้งค่าตัวเครื่อง 4 ขั้นตอนง่ายๆ ที่นี่เลยค่ะhttp://www.ais.co.th/3g/Quick-Guide
2. ตั้งค่า OTA ทำยังไงคะ
A: เพียงระบุยี่ห้อ รุ่น ที่นี่ก็รอรับ SMS ตั้งค่า Internetทันทีค่ะ Link >>http://activities.ais.co.th/app/ota/setting/setting3gcc.aspx
3. ทำไมอัพเกรดมาแล้วหน้าจอยังเป็น 520-03/ 52003 คืออะไร
A: หน้าจอที่แสดง 52003 /520-03 คือ 3G2100 แสดงว่าพร้อมใช้งานแล้วค่ะ ที่บางเครื่อง(iPhone)ที่แสดง 52003 ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขค่ะ เมื่อมีการ อัพเดท iOS เวอร์ชั่นใหม่(ปัจจุบัน iOS เป็นเวอร์ชั่น 6.1.3 ) จะสามารถเปลี่ยนค่าที่แสดงจาก 520-03 หรือ 52003 เป็น AIS ได้ค่ะ
4. เครื่องไม่รองรับ AIS 3G ใหม่จะใช้งานได้อย่างไร
A: สำหรับ AIS 3G 2100ใช้งานกับโทรศัพท์ที่ไม่รองรับ 3G 2.1 GHZ ให้เลือกเครือข่าย TH GSM หรือ 52001 ได้นะคะ
5. ถ้าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ 3G2100จะเล่นเน็ตได้หรือเปล่า ต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มไหม
A: ใช้งานได้ต่อเนื่องค่ะ แต่หากเชื่อมต่อไม่ได้แนะนำตั้งค่าหรือเปิดการใช้งาน Data Roaming ที่ตัวเครื่องก่อนนะคะ
6. หากพบข้อขัดข้องในการใช้งานจะทำอย่างไรดี
A: ไม่ต้องเป็นกังวลใจนะคะ แจ้งเบอร์มือถือ, error, พื้นที่ใช้งานปัจจุบัน, และเบอร์ติดต่อกลับมายัง inbox AIS Call Center ตรวจสอบเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
7. ความเร็วสูงสุดเท่าไหร่
A: ความเร็วสูงสุด ทั้ง Upload และ Download บน AIS 3G ได้ความเร็วสูงสุด 42 Mbps แพ็คเกจแบบคิดค่าบริการตามปริมาณใช้งาน หากเกินจำนวนที่กำหนดไว้ในแพ็คเกจความเร็วจะลดลงตามเงื่อนไขของแพ็คเกจ (FUP) หากครบตามจำนวนแล้วต้องการใช้ความเร็ว 3G2100 ต่อ เพียงสมัครแพ็คเกจเพิ่มที่ *7777 ฟรีค่าโทรค่ะ
8. Fair Usage Policy (FUP) คืออะไร
A: การลดความเร็วเป็นไปตามหลักการ Fair Usage Policy (FUP) แฟร์ ยูซิจ พอลลิซีเป็นนโยบายมาตรฐานในการให้บริการการใช้งาน Data เพื่อป้องกันผู้ใช้งานนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งจะมีผลทำให้ประสิทธิภาพการใช้ Data ลดลง เช่น การนำไปใช้งาน Bit Torrent โดยใช้โทรศัพท์มือถือต่อเป็นโมเด็ม เปิดบริการร้านอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

การใช้งาน

1. สัญญาณ ทำไมเป็น 3G บ้าง E บ้าง สวิงไปมา
A: หน้าจอแสดง3G สลับกับตัว R , E , สามเหลี่ยม เป็นสัญลักษณ์การเชื่อมต่อเครือข่ายใช้ 2G ในพื้นที่ที่ AIS 3G 2100 ยังไม่ครอบคลุมเพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้ต่อเนื่อง
A: หน้าจอแสดง H /H+ เป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยี 3G ส่วนการแสดงค่าสลับกันเป็นคุณสมบัติของตัวเครื่องค่ะ
2. โทรศัพท์แจ้งให้เปิดใช้Roaming เครือข่าย จะมีค่าบริการเพิ่มเติมหรือเปล่า
A: ไม่มีค่าบริการเพิ่มค่ะการเปิด Roaming เพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างต่อเนื่องเมื่ออยู่นอกพื้นที่ AIS 3G 2100
3. ทำไมใช้ 3G2100 แล้วแบตหมดเร็ว / เครื่องร้อน
A: ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายเครือข่ายAIS 3G เพื่อให้ใช้งาน Internet เร็วขึ้นบางพื้นที่อาจมีสัญญาณอ่อนจึงใช้เวลาในการค้นหาเครือข่ายนานกว่าเดิมทำให้แบตหมดเร็วกว่าปกติ และเมื่อสถานีฐานขึ้นตามแผนงานครบสมบูรณ์ปัญหานี้จะลดลงค่ะ
4. ทำไมได้ความเร็วไม่ถึง 42 Mbps
A: จะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้งานรองรับความเร็วสูงสุดไม่เท่ากัน, Package ที่ใช้งาน, ใช้งานในบริเวณที่อยู่ห่างจากสถานีฐาน หรือยังไม่มีเครือข่าย AIS 3G 2100 ให้บริการ, จำนวนผู้ใช้งานในช่วงเวลานั้น, ใช้งานในอาคารสูงหรือบริเวณที่มีสิ่งกีดขวาง และ Web Browser ของผู้ให้บริการแต่ละราย เช่น Website ของต่างประเทศอาจจะมีส่วนทำให้ช้าลง เป็นต้นค่ะ
5. ตรวจสอบยอดการใช้งานยอดเงินคงเหลืออย่างไร
A: เช็คยอดการใช้งานสำหรับ ลูกค้าAIS 3G ใหม่ *121# โทรออกฟรี
  • AIS 3G Postpaid : ยอดการใช้งาน Internet จะแสดงเป็นยอดReal Time ส่วนค่าบริการอื่นๆเช่น การโทรจะ แสดงย้อนหลังไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง – 3 ชั่วโมง
  • AIS 3GOne 2 Call : ยอดที่แจ้งเป็นยอด RealTime
*กรณีใช้งานอยู่นอกพื้นที่ 3G2100 จะไม่สามารถเช็คยอดผ่านกด *121#ได้ แนะนำ IVR *121แทนค่ะ
A: วิธีการตรวจสอบรายละเอียดการใช้งาน (*121)
พิเศษ!!!สำหรับลูกค้าAIS 3G2100 ที่ใช้งานผ่านระบบอัตโนมัติ*121 จะสามารถใช้งานฟรีได้ถึง 31/12/13
6. ใช้งาน iPAD,tablet รับ SMS เตือนไม่ได้ ทำอย่างไร
A: สามารถตรวจสอบยอดใช้งานหรือPackage คงเหลือได้จาก eService ค่ะ ที่นี่เลยhttps://aiseservice.ais.co.th/eServiceWeb/
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

โปรโมชั่น

1. โปรโมชั่น AIS 3G รายเดือน มีให้เลือกอะไรบ้าง
A: มีให้เลือกหลากหลายและคุ้มค่ามากค่ะรายละเอียดที่นี่เลยค่ะ http://www.ais.co.th/3g-postpaid
2. โปรโมชั่น AIS 3G 12Call มีให้เลือกอะไรบ้าง
A: หลากหลายให้คุณเลือกตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณที่นี่เลยค่ะ http://www.ais.co.th/3g-one-2-call/th/promotion.aspx
3. อยากเปลี่ยนโปรโมชั่นทำอย่างไร
A: อยากเปลี่ยนโปรโมชั่น สมัครแพ็กเกจเสริม เพื่อการใช้งาน Internet อย่างต่อเนื่องในราคาที่คุ้มค่า โดยสามารถสมัครได้เพียงโทร*777
4. โปรโมชั่นโทรฟรีในเครือข่ายหมายถีงเครือข่ายไหนบ้าง
A: โทรฟรีในเครือข่ายAIS 3G 2100, AIS(GSM Advance , ONE2Call) และ GSM1800ค่ะ
5. มีข่าวตามประกาศของ กสทช. หลังจากที่อัพเกรดเป็น AIS 3G 2100 แล้วค่าบริการจะปรับลดลงกว่าเดิม15% ใช่ไหม
A: ใช่ค่ะ บริษัทมีโปรโมชั่นใหม่ที่ทยอยออกมาสำหรับลูกค้า AIS 3G 2100 เลือกใช้ค่ะ
–>ลูกค้า AIS 3G 2100 (รายเดือน) แนะนำ คุยสะใจ รายละเอียดที่นี่เลยค่ะhttp://www.ais.co.th/3g-postpaid/index.aspx
–>ลูกค้า AIS 3G 2100 (ONE2Call) จะทยอยเปิดโปรโมชั่นใหม่เร็วๆ นี้ค่ะ
6. ราคาถูกลงทั้งการโทรและ Internet หรือเปล่า
A: คุณจะได้รับความคุ้มค่าจากการโทรและการใช้งาน Internet มากกว่าเดิมค่ะ เช่น
รายเดือน Mix & Match เริ่มต้น 200 บาท
เดิม : โทรได้ 200 นาที เท่ากับนาทีละบาท ใช้ Internet 2 บาท/MB
ใหม่ : โทรได้ถึง 230 นาที เหลือเพียงนาทีละ 0.87 บาท เท่านั้น และคุ้มมากขึ้นด้วยอัตราใช้งาน Internetเหลือแค่ 1.50 บาท / MB ค่ะ
โปร iSmart 599 บาท
เดิม : โทรได้ 150 นาที ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 1 GB
ใหม่ : โทรได้ 300 นาที ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 1.5 GB จ่ายเท่าเดิม ใช้ได้มากกว่าเดิม คุ้มมากค่ะ
7.อยากได้เป็นส่วนลดค่า Package มากกว่าการเพิ่มจำนวนการใช้งาน Internet ใน Package
A : สำหรับ Internet Package บริษัทให้ส่วนลดเป็นค่าบริการต่อหน่วยการใช้งานที่ถูกกว่าเดิมเฉลี่ย 15-25% ค่ะ เช่น
Internet แพ็คเล็ก 99 บาท
เดิม : ใช้ Internet ได้ 75 MB
ใหม่ : ใช้ได้ 90 MB จ่ายเท่าเดิม ใช้ได้เพิ่มขึ้นถึง 15 MB เมื่อเทียบจำนวน MB ที่เท่ากันแล้ว ค่าบริการถูกลง 17% ค่ะ
Internet แพ็กใหญ่ 799 บาท
เดิม : ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 3 GB
ใหม่ : ใช้ได้ 4 GB ทำให้ราคาต่อ MB ลดลงถึง 25% ค่ะ
8. อยากให้ลดส่วนของการโทร และไปเพิ่มจำนวนใช้งาน Internet มากกว่า
A: หากใช้ Internet มาก เลือกสมัคร Unlimited Package เลยจะคุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ตลอดโดยไม่ต้องกังวลว่า Package จะหมดค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สิทธิพิเศษ

1. Welcome sweets คืออะไร
A: ความพิเศษที่มอบให้คุณโดยสามารถรับสิทธิพิเศษนี้ได้หลังจากอัพเกรดเครือข่าย AIS 3G2100 ค่ะ มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ http://www.ais.co.th/privilege
2. สิทธิพิเศษให้ทดลองใช้Internet ฟรีบ้างไหม
A: มีค่ะ เป็นสิทธิพิเศษที่ให้กับลูกค้าAIS 3G 2100 เท่านั้นซึ่งจะได้รับสิทธิทดลองใช้ Internet ฟรี 6 เดือนค่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บริการอื่น ๆ

1. มีบริการ 1SIM2Number อยากอัพเกรดต้องทำอย่างไร
A: หมายเลขนี้มีบริการ 1SIM2 Number ซึ่งไม่สามารถใช้งานได้ใน AIS 3G 2100 หากจะอัพเกรดเป็น AIS 3G 2100สามารถดำเนินการได้ที่ AIS Shop, เทเลวิซ เพื่อแยก SIM Card เมื่ออัพเกรดเสร็จแล้ว จะใช้บริการ 1SIM2Numbers ต่อไม่ได้ค่ะ
2. บริการ Multi SIM ใช้งานได้ไหมคะ
A: เมื่อ AIS 3G 2100เปิดให้บริการในพื้นที่ใช้งานของคุณ AIS จะติดต่อคุณให้นำ SIM ทั้งหมดไปอัพเกรดที่ AIS Shop เนื่องจาก MultiSIM ไม่สามารถอัพเกรดเครือข่ายแบบอัตโนมัติได้ค่ะ เมื่ออัพเกรดแล้วคุณยังใช้งาน Multi SIM ได้ตามปกติค่ะ
3. มีบริการที่ไม่สามารถใช้ได้หลังอัพเกรดไหมคะ
A: บริการเติมเงินให้หมายเลข 2G ค่ะ เช่น GSM Top Up, บริการโอนเงิน โอนวัน, บริการเติมให้นะ หมายเลข 2G จะเติมเงินให้หมายเลข 2G และหมายเลข AIS 3G 2100 เติมเงินให้หมายเลข AIS 3G 2100 ค่ะ

วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปาริชาติ ถนนรังสิต-ปทุมธานี หอพักสะอาด ติดถนนใหญ่


การเดินทางท่องเที่ยวหรือแม้แต่การหาที่พักอาศัยของคนวัยทำงานคงหนีไม่พ้นเรื่องการหาที่อยู่  ที่พักอาศัยเป็นอันดับแรก  วันนี้ผมก็จะมารีวิวหอพักนี้กันนะครับ ไปติดตามกันเลยครับ

หอปาริชาติจะมีอยู่ 3 ตึก คือ ตึก A B C โดยแต่ละตึกขนาดห้องจะแตกต่างกันเล็กน้อย และ เฟอร์นิเจอร์ที่มีให้ก็แตกต่างกัน ดังนี้

ตึก A  ทั้งสองแบบมี เตียง ที่นอน ตู้เสื้อผ้า  โต๊ะเครื่องแป้ง  (ตึกเก่า)
  • ห้องพัดลม ค่าเช่า 2800 บาท/เดือน เงินประกัน 3000 บาท
  • ห้องแอร์  ค่าเช่า 3300 บาาท/เดือน เงินประกัน 3500 บาท

ตึก B  ทั้งสองแบบมี เตียง ที่นอน ตู้เสื้อผ้า  โต๊ะเครื่องแป้ง  (ตึกใหม่)
  • ห้องพัดลม ค่าเช่า 3000 บาท/เดือน เงินประกัน 3000 บาท
  • ห้องแอร์  ค่าเช่า 3500 บาาท/เดือน เงินประกัน 3500 บาท

ตึก C   มี เตียง ที่นอน   (ตึกใหม่)
  • ห้องพัดลม ค่าเช่า 2500 บาท/เดือน เงินประกัน 3000 บาท

ค่าบริการอื่น ๆ
  • ค่าไฟ  7 บาท/หน่วย
  • ค่าน้ำ 150 บาท/เดือน (ขั้นต่ำ 8 หน่วย)
  • ส่วนกลาง  150 บาท/เดือน
  • คีย์การ์ด  100 บาท/ใบ
  • Internet WIFI 490 บาท/เดือน (หากไม่ใช้ ไม่ต้องเสียเงิน)
  • ค่าที่จอดรถยนต์ 150 บาท/เดือน (กลางแจ้ง)
  • ค่าที่จอดรถยนต์ 500 บาท/เดือน (ในร่ม)
  • จักรยานยนต์ จอดฟรี !!!
  • มี รปภ. 3 นาย ตลอด 24 ชม.
  • โทร. 02-958-9061


การเดินทางไป  Future Park รังสิต  สะดวกมาก เนื่องจากทำเลอยู่ติดถนนใหญ่มีรถประจำทางผ่านไปมาหลายสายทำให้เราเดินทางไปไหน มาไหน ก็ง่ายขึ้น สะดวก  จากภาพ  ด้านซ้ายไปฟิวเจอร์  ด้านขวาไปปทุมธานี  

หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์กับเพื่อนได้เป็นอย่างดีนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ

It is raining at Nakhon Ratchasima, Thailand


It is raining during a football match (Korat VS Trat) at Nakhon Ratchasima, Thailand.

Wake up to this Breakfast


Leader มีความเป็นผู้นำ มากกว่า Manager !!! (ตอนที่ 1)

เท่าที่สังเกตผู้คนที่ทำงานในบริษัทหรือโรงงานต่าง ๆ มักจะมีตำแหน่ง Operator Leader Engineer Manager ฯลฯ  แต่ละตำแหน่งก็มีหน้าที่ มีความเป็นผู้นำที่แตกต่างกันออกไป  แล้วทำไม Manager ถึงมีความเป็นผู้นำด้วยกว่า Leader ล่ะ ??

จริง ๆ แล้ว ภาวะผู้นำที่ Leader มีนั้น  อาจเป็นเพราะว่า  เขาใกล้ชิดกับพนักงานระดับล่างมากกว่า  และ สามารถเข้ากับทุกคนได้ดีกว่าระดับสูงขึ้นไป  แต่ว่า Manager บางครั้งอาจเปลี่ยนแปลงมาจากการบริหารงาน  ซึ่งบางคนอาจไม่ได้เติบโตจากสายงานดังกล่าว  จึงทำให้เข้ากับทีมได้ยากมาก  เพราะว่าน่าเชื่อถือจากพนักงานระดับล่างอาจลดลง  พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่สนิทใจ นั่นเอง  จึงเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานบางอย่าง  สิ่งเหล่านี้คือปัญหาใหญ่ของการบริหารงาน  !!!


แน่นอนว่า  Manager อาจจะมีภาวะผู้นำในบางสิ่ง เช่น มองตลาดออกว่าต้องการอะไร  รู้ว่าต้องทำผลิตภัณฑ์อะไรเพื่อขายเข้าสู่ตลาด  แต่ในแง่การทำงานร่วมพนักงานระดับล่างอาจดำเนินงานยากลำบากนิดนึง  และการทำงานที่มีความรู้สึกไม่เป็นกันเอง ก็อาจทำให้พนักงานมีความเคียดเพิ่มขึ้น  ประสิทธิภาพการทำงานอาจลดลงพอสมควร  การขาดงาน  ลางาน ก็เพิ่มขึ้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม  ภาวะผู้นำมีได้หลายแบบ  ซึ่ง Manager ต้องเรียนให้มากที่สุด  เนื่องจากคุณเป็นหัวหน้าพวกเขาและเป็นแบบอย่างหลาย ๆ ด้าน เพื่อพัฒนาองค์กรหรือทีมที่คุณบริหารอยู๋นั้นให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

โปรดติดตาม..... ตอนที่ 2

Samsung แอบเปิดตัว "REX" เงียบ ๆ


ขณะที่ผู้คนกำลังตื่นเต้นก่อนหน้ากับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนกาแล็กซี่รุ่นใหม่ บริษัทซัมซุง อิเล็คทรอนิคส์ ก็ได้เปิดตัวมือถือจอสัมผัสราคาประหยัด ไปอย่างเงียบๆ เป็นการส่งสัญญาณว่าซัมซุงตั้งเป้าครองตลาดมือถือทั้งในกลุ่มมือถือระดับบนและระดับล่าง

ฟีเจอร์โฟนใหม่ของซัมซุง ใช้ชื่อซีรีส์ "REX" (เร็กซ์) ซึ่งเปิดตัวออกมา 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ เร็กซ์ 90, เร็กซ์ 80, เร็กซ์ 70 และ เร็กซ์ 60 โดยมือถือรุ่นดังกล่าว เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในอินเดียเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.พ.) ที่ผ่านมา และมีแผนที่บุกตลาดในรัสเซีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ แหล่งข่าววงใน เปิดเผยว่า มือถือทั้ง 4 รุ่นนี้ มีแนวโน้มว่าจะขายในช่วงราคาระหว่าง 50 ดอลลาร์ ถึง 100 ดอลลาร์ต่อเครื่อง


ผู้ผลิตมือถือยักษ์ใหญ่จากเกาหลีรายนี้ ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมือถือราคาถูกยังคงเป็นที่นิยม ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของสมาร์ทโฟนและฟีเจอร์โฟนยังไม่สูงนัก การส่งมือถือซีรีส์เร็กซ์ออกสู่ตลาดครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าซัมซุงไม่ได้ต้องการแข่งกับแอ๊ปเปิ้ลและกูเกิ้ลเท่านั้น แต่ยังต้องการแข่งกับผู้ผลิตมือถือระดับล่างด้วย

เจ เค ชิน ประธานบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายไอทีและการสื่อสารเคลื่อนที่ของซัมซุง กล่าวว่า "เรามุ่งมั่นพัฒนามือถือที่ตอบสนองความต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันทุกรูปแบบและเหมาะกับเงินในกระเป๋าของลูกค้าทุกกลุ่ม ทำให้เราตื่นเต้นมากที่ได้เปิดตัวมือถือซีรีส์เร็กซ์ในตลาดซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก"

มือถือ เร็กซ์ ทั้ง 4 รุ่นนี้ มีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกันไป โดยมี 2 รุ่นใช้ระบบจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว อีก 1 รุ่นใช้จอ 3.5 นิ้ว และรุ่นที่เล็กที่สุดจอ 2.8 นิ้ว ซึ่งเล็กเกือบครึ่งของขนาดหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่น "ซัมซุง กาแล็กซี่ โน้ต 2"

นอกจากนี้ มือถือรุ่นดังกล่าว ยังสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นแชทได้จำนวนหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการชั้นยอดเหมือนกับในสมาร์ทโฟน

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำไม ? " เกาะเสม็ดต้องเสร็จทุกราย !!! " (ที่มาและความสำคัญ)


วัยโจ๋วัยจ๋าที่ได้ชื่อว่าเป็นคนหนุ่มคนสาวในชุดนักศึกษา หรือจะเป็นคนวัยทำงานรุ่นก่อน ๆ เขาเล่าขานกันมาว่า สาวใดได้ไปเที่ยวเกาะเสม็ดที่ตั้งอยู่ห่างฝั่งตลาดบ้านเพ อ.เมือง จ.ระยอง ประมาณ 6.5 กิโลเมตร แล้วละก็เป็น “เสร็จ” ทุกราย ความหมายของคำ ๆ นี้ อย่าเพิ่งหมายเหมาเอาเป็นเรื่องชู้สาวแบบเกินเลย ทว่าขอเอาแค่เบา ๆ นุ่มนวลตรงที่ว่าจะเริ่มมีความผูกพันรักมั่นกันก็ตรงนั้นแหละ

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ แต่ก่อน...เกาะเสม็ด หรือเกาะแก้วพิสดารในจินตนาการของพระยาสุนทรโวหาร (สุนทรภู่) จากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีนั้น เป็นเกาะที่เงียบสงบอยู่กลางทะเลอ่าวไทย จะมีชุมชนชาวประมงอยู่บ้างเพียงน้อยนิด ตรงท่าเรือที่เรียกกันว่า “ท่าด่าน” นอกนั้นจะเป็นโขดหินสลับกับทุ่งหญ้าและพุ่มหญ้า จะมีแมกไม้อยู่บ้างก็เพียงพันธุ์เตี้ยพอให้ร่มเงากันได้บ้าง

จุดเด่นที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ประดับเกาะแห่งนี้ ก็คือเหล่าหาดทรายที่กระจายรายล้อมอยู่รอบตัวเกาะ ทั้งทางด้านตะวันออกที่หันหน้าเข้าหาฝั่งบ้านเพ และตะวันตกที่หันหน้าออกสู่ทะเลหลวง หาดทรายเหล่านี้แต่ละหาดมิมีสิ่งปลูกสร้าง หรือคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเข้าไปรบกวนในยามนั้น แต่ถ้าให้จัดอันดับว่าหาดทรายทางด้านใดสวยที่สุด มีมนต์ขลังมากสุด ก็ต้องยกให้หาดทรายแก้ว ซึ่งลักษณะด้านกายภาพของหาดที่ว่านี้ จัดได้ว่า เป็นหาดทรายสีขาวนวลเนียน จนเป็นที่รํ่าลือกันว่าความละเอียดของเม็ดทรายแต่ละเม็ดบนหาดทรายแก้ว สามารถที่จะนำไปทำเป็นวัตถุดิบของการผลิตแก้วใส ๆ ได้เลยทีเดียว


กระนั้น นํ้าทะเลบริเวณดังกล่าว ที่เป็นสีตองอ่อนอยู่เคียงแนวหาด กับสีเขียวมรกตตรงกลางทะเลลึกที่เต็มไปด้วยมวลหมู่ปะการัง และสิ่งมีชีวิตอันสมบูรณ์มากมายหลากหลายนั้น ปราศจากคราบนํ้ามันจากหมู่เรือประมง หรือแบคทีเรียที่เกิดจากการปล่อยสารพิษ กระทั่งนํ้าเสียจากภาคโรงงานอุตสาห กรรมบนฝั่งแผ่นดินใหญ่ คนที่ลงเล่นนํ้าทะเลที่นั่นในอดีตต่างรู้ดีว่า ไม่ได้รู้สึกเหนียวตัวและระคายผิวหนัง หากไม่รีบอาบนํ้าจืดหลังขึ้นจากทะเลเหมือนที่อื่น ๆ

ที่นี่จึงเป็นหาดทรายชายทะเลที่เงียบสงบ มากมีไปด้วยมนต์ขลังและพลังอันอลังการของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ด้านงามบริสุทธิ์ ใครไปถึงถิ่นนี้จึงหนีไม่พ้นนิยามความหมายที่ว่า “เสร็จ” ทุกราย

ระหว่างที่เกาะเสม็ดยังคงเป็นเพชรเม็ดงามอยู่กลางอ่าวไทยในยามนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในยุคที่ยังมีสถานะเป็นองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (อสท.) เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2518 หรือวันที่คนหนุ่มคนสาวยุคนี้ยังไม่เกิด มองเห็นว่าเกาะเสม็ดเหมาะที่จะส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทคงสภาพสิ่งแวดล้อมรอบด้านเอาไว้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและใช้เป็นทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวได้ยาวนาน จึงได้จ้างองค์กรผู้มีความชำนาญทางด้านนี้มาจัดทำแผนพัฒนาการยังแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ไปพร้อมกับการดำเนินงานด้านการตลาด เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปท่องเที่ยว อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น

แผนดังกล่าวระบุไว้อย่างชัดเจน จะไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ขึ้นบนตัวเกาะ ยกเว้นสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานแก่นักท่องเที่ยว อันได้แก่ ห้องอาบนํ้าจืด กับสุขาเท่านั้น

ด้านการตลาดก็จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว เดินทางไปท่องเที่ยวแบบเช้ากลับเย็น สนับสนุนให้มีการลงทุนสร้างโรงแรมที่พักเฉพาะบนฝั่งบ้านเพ ไปจนถึงแหลมแม่พิมพ์ ส่วนนักท่องเที่ยวประเภทนิยมพักแรมคืน ก็ส่งเสริมให้พักแรมแบบกางเต็นท์มากกว่าอย่างอื่น

แผนฉบับนี้เมื่อถูกปลุกเสกลงคาถาเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับกรมป่าไม้ในยุคนั้นได้ประกาศยกเอาพื้นที่เกาะเสม็ดเกือบทั้งหมด ขึ้นเป็น “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” อสท.จึงได้นำเอาแผนฉบับดังกล่าวขึ้นวางไว้บนพานทอง แล้วก็ส่งมอบต่อให้กรมป่าไม้ไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาเกาะเสม็ด เพื่อให้เกิดความยั่งยืน

แต่ใครจะไปเชื่อเล่าว่า แม้กรมป่าไม้จะมีคัมภีร์ฉบับนี้เป็นแม่บท แถมยังมี พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติเป็นตัวบทกฎหมายที่ชัด เจน ในการควบคุมและปกป้องพื้นที่ธรรมชาติทั้งหมดเอาไว้ ทว่าด้วยความเป็นจริงให้ลืมตากว้าง ๆ แล้วมองกันไปเถอะว่า สภาพความเป็นจริงของเกาะเสม็ดในปัจจุบันทั้งหาดทรายแก้ว หาดวงเดือน อ่าวไผ่ อ่าวทับทิม อ่าวช่อ และอีกหลายสิบหาดรอบเกาะ รูปโฉมโนมพรรณปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร ?

สรุปกันเป็นว่า สถานะของเกาะเสม็ดวันนี้ มีรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวเลือกพักทุก ขนาดราคามากถึง 68 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องพัก 2,063 ห้อง มีเรือบริการระหว่างเกาะกับแผ่นดินบ้านเพ ตลอดจนให้บริการนำเที่ยว ทั้งแบบเรือเร็วและเรือประมงดัดแปลงนับเป็นร้อยลำ มีรถยนต์กระบะที่ต่อเติมเป็นรถสองแถวให้บริการบนเกาะ ซึ่งมีถนนแบบลำลองรองรับอยู่บนระยะทาง 7 กิโลเมตรรอบเกาะจำนวน 65 คัน ผสมกับรถมอเตอร์ ไซค์ให้นักท่องเที่ยวเช่าขี่อีก 600 คัน

นี่ยังไม่นับรวมธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยวแทบทุกประเภทที่มีอยู่ กับจำนวนคนที่ฝากผีฝากไข้ไว้กับเกาะแห่งนี้อีกไม่รู้ว่ากี่แสนคน ตั้งแต่หมอนวดแผนไทย ช่างเสริมสวย คนขายข้าวแกง ไปถึงคนงานในรีสอร์ทและร้านอาหาร

ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวซึ่งรวมทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวสแกนดิเนเวียน จีน รัสเซีย แห่กันไปใช้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนสูงถึงปีละ 707,661 คน มีกระแสเงินสะพัดไม่ตํ่ากว่าปีละ 1,574 ล้านบาท

นี่คือความไม่ธรรมดาของเกาะเสม็ดในวันนี้ !

แต่แล้ว...พระเจ้าก็บอกไม่ได้ ที่จู่ ๆ ท่อส่งนํ้ามันขนาดใหญ่กลางทะเลอ่าวไทย ตรงบริเวณด้านฝั่งตะวันตกของตัวเกาะเสม็ด เกิดรั่วไหลมีนํ้ามันดิบสีดำเปื้อนทะลักขึ้นมาเหนือท้องทะเลเป็นวงกว้าง ผสมกับมีลมทะเลพัดเป็นระลอกคลื่น เป็นพาหนะนำนํ้ามันดิบเหล่านั้นเข้าไปกระจุกรวมกันอยู่บริเวณภูผาหิน กับแนวหาดด้านอ่าวพร้าวอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่พักหลับนอนอยู่ในรีสอร์ท 3 แห่งตรงบริเวณนั้น จำเป็นต้องเก็บผ้าเก็บผ่อนอพยพข้ามไปอาศัยอยู่ทางหาดทรายแก้วกับหาดวงเดือนแทน เพราะไม่สามารถลงเล่นนํ้าทะเลได้ กับทนกลิ่นเหม็นของนํ้ามันไม่ได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่พ้นภาระของเจ้าของธุรกิจตัวจริง ที่เป็นนักบุญด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วได้รีบรุดเข้าไปจัดการพร้อมเหล่าอาสาสมัครอีกนับพันคน จนกระทั่งวันนี้สภาพการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว คงเหลือแต่กระแสข่าวของนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเท่านั้น ที่ยังคงเกริ่นนำถึงการฟื้นฟูท้องทะเลให้กลับฟื้นคืนขึ้นมา ซึ่งบ้างก็ว่าต้องใช้เวลานานเป็นปี บ้างก็ว่าทุกสิ่งทุกอย่างใต้ท้องทะเลได้ราพณาสูรไปหมดแล้ว...อนิจจา !

แต่จะอย่างไรก็ตาม ถึงกระแสข่าวจะส่งผลกระทบไปทั่ว ทว่าในภาพความเป็นจริงขณะนี้ กระแสนักท่องเที่ยวที่ไม่หวั่นวิกฤติตามข่าวสาร ก็ยังเห็นหอบกระเป๋าพะรุงพะรังลงเรือเพื่อมุ่งหน้าสู่เกาะเสม็ด สำหรับใช้วันเวลาอยู่บนหาดทรายสีขาวนวล กับลงเล่นนํ้าทะเลที่ใสเป็นสีตองอ่อน แล้วก็บริโภคอาหารทะเลสด ๆ ที่เขามั่นใจว่าไร้สารตะกั่วจากพิษนํ้ามันดิบ

วันนี้ถือเสียว่าเป็นการคืนภวังค์แห่งฝันร้ายแค่ชั่วข้ามคืน จึงอย่าเอาวิกฤติมาซํ้าเติมกันเลย เสม็ดนั้นเป็นเกาะที่บอบชํ้ามามากแล้ว หยุดซํ้าเติมกันเสียที !.

“อย่างไรก็ตาม ถึงกระแสข่าวจะส่งผลกระทบไปทั่วทว่า ในภาพความเป็นจริง ขณะนี้ กระแสนักท่องเที่ยว  ที่ไม่หวั่นวิกฤติตามข่าวสาร ก็ยังเห็นหอบกระเป๋าพะรุงพะรังลงเรือเพื่อมุ่งหน้าสู่เกาะเสม็ด สำหรับใช้วันเวลาอยู่บนหาดทรายสีขาวนวล กับลงเล่นนํ้าทะเลที่ใสเป็นสีตองอ่อน แล้วก็บริโภคอาหารทะเลสด ๆ ที่เขามั่นใจว่าไร้สารตะกั่วจากพิษนํ้ามันดิบ”

รู้ไว้ก่อนไปเที่ยว !!!

เกาะเสม็ดมีพื้นที่ 3,125 ไร่ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม สภาพเป็นสันเขายาวจากเหนือสู่ใต้ฝั่งตะวันตกเป็นหน้าผาสูงชัน  ปลายแหลมด้านใต้ มีเกาะเล็ก ๆ อยู่ใกล้ คือ เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม และเกาะหินขาว ซึ่งเป็นเกาะที่นกนางนวลชอบอาศัยวางไข่ หาดทรายสว่นใหญอยู่ทางฝั่งตะวันออก ได้แก่ หาดทรายแก้ว หาดวงเดือนและ ฯลฯ  ฝั่งตะวันตกมีเพียงหาดเดียวที่อ่าวพร้าว (จุดที่เกิดวิกฤตินํ้ามันรั่วไหลเข้าใส่) ท่าเรือโดยสารที่บ้านเพ มีอยู่ 6แห่ง คือท่าเรือนวลทิพย์ ท่าเรือศรีบ้านเพท่าเรือเพ ท่าเรือเสรีบ้านเพ ท่าเรือโชคกฤษดา ท่าเรือเทศบาล ต.เพ (ท่าเรือวงเดือน)

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556